เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
ผู้เสียหายหอบหลักฐานถูกบริษัทขายคอนโดมิเนียมโครงการหรู ใน จ.เชียงใหม่ หลอกเชิดเงินมัดจำ ย่านนิมมานเหมินทร์ ร่วม 20 ล้าน พบมีรายชื่อของ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โดนตุ๋นด้วย
เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) กลุ่มผู้เสียหายในพื้นที่ภาคเหนือไม่ว่าจะเป็น นายแพทย์ และนักธุรกิจ กว่า 8 ราย รวมตัวกันร้องต่อสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกหลอกซื้อคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง โดย นางขวัญปวีกรณ์ วงศ์ศรี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทางโครงการดังกล่าวลงโฆษณาในหนังสือและนิตยสาร ทั้งกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ซึ่งได้รับแจ้งว่า คอนโดฯ มีทั้งหมด 109 ห้อง แต่ขายไปแล้ว 40 ห้อง เหลือ 69 ห้อง ต้องติดต่อซื้อขายกับ บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนขาย โดยมีการโฆษณาว่า หากวางเงินมัดจำจำนวน 1 ล้านบาท จะได้สิทธิพิเศษหลายอย่าง
แต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา มีการขึ้นป้ายข้อความว่า บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด มีปัญหากับโครงการ หากมีการกระทำใดทางโครงการไม่รับผิดชอบ จึงรีบติดต่อสภาทนายความ และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. เชียงใหม่ และได้ทราบว่า มีการร้องเรียนก่อนหน้านั้นเช่นกัน จึงติดต่อและรวมกลุ่มกันขึ้น เพื่อฟ้องร้องคดีในทางแพ่งว่าทั้งสองบริษัทฉ้อโกง เนื่องจากทางโครงการรลงโฆษณาว่า มอบหมายให้ บริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นตัวแทนขาย คงไม่สามารถผลักความรับผิดชอบได้ ตอนนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพราะพวกเรามีหลักฐานเอกสารการซื้อขาย วางมัดจำ และการโอนเงินชัดเจน แต่อยากแจ้งให้สาธารณะได้ทราบว่า โครงการนี้มีการฉ้อโกงเพราะเชื่อว่ายังมีลูกค้าอีกมากที่ยังไม่ทราบข่าว
นางขวัญปวีกรณ์ กล่าวเสริมว่า ในจำนวนผู้เสียหายมี น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม อดีตนางงามและนักแสดงร่วมอยู่ด้วย เพราะเรามีการติดต่อกันจึงทราบว่า บุ๋มตัดสินใจซื้อคอนโด 5 ห้อง เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท หลังได้รับเชิญให้มาเป็นพิธีกรเปิดตัวรีสอร์ทและคอนโดฯ ที่เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องที่กรุงเทพฯ เช่นกัน กลุ่มเราส่วนใหญ่จะเริ่มซื้อคอนโดฯ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา หากรวมบุ๋มเท่ากับว่าสูญเงินรวมกันไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ทางด้านนายพฤกษพงศ์ รัตนสังวาลย์ ทนายความของกลุ่ม กล่าวว่า ทราบว่าระหว่างบริษัท ซีเจอาร์ กรุ๊ป จำกัด กับโครงการดังกล่าว มีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องขายคอนโดฯ ในราคาที่ต่างกัน แต่ก่อนหน้านี้เรามีหลักฐานชัดเจนว่า มีการมอบหมายให้เป็นตัวแทนดำเนินการซื้อขาย ในทางคดีจึงฟ้องทั้งคู่เป็นจำเลย เพื่อให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งล่าสุดศาลมีคำสั่งให้ระงับการจำหน่ายจ่ายโอนห้องที่มีปัญหาทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีแพ่ง ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนเงินสดที่สูญไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
