x close

กรณ์ ตำหนิ ยิ่งลักษณ์ ปมหนี้เสีย ธ.อิสลาม บอกหลอกลวงประชาชน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟสบุ๊ก Korn Chatikavanij
    
        กรณ์ ตำหนิ ยิ่งลักษณ์ ปมหนี้เสียธนาคารอิสลาม บอกหลอกลวงประชาชนให้ไม่ต้องกังวัล ทั้ง ๆ ที่ไม่มี พ.ร.บ. การคุ้มครองเงินฝาก ตามที่ได้กล่าวอ้างไว้ จวกอย่ากังวลว่าคนจะไม่รัก ควรทำตัวให้น่าเชื่อถือมากกว่า

       จากกรณีที่ คณะกรรมาธิการการกิจการชายแดนไทย และรองกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.การคลัง ออกมาให้ความเชื่อมันแก่ประชาชนชาวมุสลิม หลังจากเกิดปัญหาเรื่องหนี้เสีย หรือ NPL เนื่องจากภายในวันที่ 1-20 กุมภาพันธ์ มีประชาชนถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารดังกล่าวไป 4,800 ล้านบาทแล้ว ซึ่งทางด้าน นายกฯ ก็ออกมายืนยันว่า ประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะมี พ.ร.บ. การคุ้มครองเงินฝากอยู่แล้ว ดังนั้น ทุกบัญชีเงินฝาก จะได้รับการคุ้มครองแน่นอน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

         ทั้งนี้ ล่าสุดวันนี้ (22 กุมภาพันธ์) นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความลงใน เฟสต์บุ๊ค Korn Chatikavanij เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวดังนี้...

        "การเป็นคนที่น่าเชื่อถือ มีค่ามากกว่าการเป็นคนที่คนรัก"

        เมื่อวันพุธผมได้ไปเยี่ยมผู้บริหารชุดใหม่ของธนาคารอิสลามในฐานะกรรมาธิการสภาฯ มีปัญหามากครับ โดยเฉพาะความสั่นคลอนในความน่าเชื่อถือที่มีต่อธนาคาร จากข่าวเรื่องหนี้เสีย และการลังเลที่จะเพิ่มทุนโดยกระทรวงการคลัง การบริหารสถาบันการเงินเป็นงานละเอียดอ่อน เรื่องความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงไม่แปลกใจว่ามีการแห่ถอนเงินฝากไปกว่า 4,800 ล้านบาทแล้ว ในเวลาเพียงแค่ 7 วันที่ผ่านมา

         จึงเป็นที่มาของการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดย ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า... "เรามี พรบ.การคุ้มครองเงินฝากอยู่แล้ว ดังนั้นทุกบัญชีเงินฝากจะได้รับการคุ้มครอง ดังนั้นขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลในส่วนนี้" ซึ่งปัญหาคือ คุณยิ่งลักษณ์พูดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง หรือไม่ก็มีเจตนาโกหกหลอกลวงประชาชน เพราะสถาบันคุ้มครองเงินฝาก "ไม่" ครอบคลุมการคุ้มครองผู้ฝากเงินในธนาคารของรัฐเพียงแต่คุ้มครองผู้ฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ที่จ่ายค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนแต่ละปีเท่านั้น หากจะให้คุ้มครองธนาคารรัฐได้ ต้องออกพระราชกฤษฎีกาแยกต่างหาก
 
         ผมได้ยินเรื่องการสัมภาษณ์ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พร้อมกับคุณอภิสิทธิ์ ขณะที่เราทั้งคู่อยู่บนเวทีหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่สวนหลวง ในชั้นแรกเราให้เกียรติท่านนายกฯ ว่ารัฐบาลท่านคงได้ออกพระราชกฤษฎีกาไปแล้ว ถึงได้กล้าพูดอย่างนี้ แต่หลังจากที่ตรวจเช็คก็ปรากฎว่ายังไม่มี
 
          ถ้าธนาคารมีปัญหาก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ถือหุ้นจะเข้ามาดูแลผู้ฝากหรือไม่ ซึ่งผู้ถือหุ้นเขาก็ส่งสัญญาณไว้ว่า เขาไม่คิดจะเพิ่มทุนตามที่ขอุมาที่นายกฯ พูดอย่างนี้ ถ้าไม่รีบออกมาแก้ข่าวยอมรับผิด อนาคตถูกลูกค้าฟ้องได้นะครับว่าหลอกลวง

          นี่ยังไม่นับข้อเท็จจริงว่า "กองทุนคุ้มครองเงินฝาก" ตอนนี้ก็อ่อนเปลี้ย เพราะรัฐบาลได้ออกกฏหมายโอนค่าธรรมเนียมที่เคยได้รับจากธนาคารพาณิชย์เอาไปชำระดอกเบี้ยของหนี้กองทุนฟื้นฟู ที่รัฐบาลนี้เองเป็นคนไปออก พ.ร.ก.โอนหนี้ ตอนต้นปี 2555 แทนที่จะใช้เงินรัฐบาลเองในการดูแลส่วนนี้ซึ่งผมได้เคยเตือนไว้แล้วว่า จะทำให้กองทุนฯ ขาดศักยภาพในการดูแลเงินฝากของประชาชนในกรณีที่เกิดวิกฤติ

          เห็นใจผู้ฝากเงินครับ !

          ผมต้องขอตำหนิผู้บริหารที่ไม่ระมัดระวังเพียงพอในการสื่อสาร อาจเป็นเพราะมุ่งมั่นมากเกินไปที่จะโยนบาปให้กับผู้บริหารชุดเดิม เข้ามาใหม่มีไฟแรงนั้น เป็นเรื่องที่ผมสนับสนุน แต่การบริหารสถาบันการเงินไม่เหมือนธุรกิจทั่วไป อย่างไรผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ เพราะเห็นว่าพยายามทำในสิ่งที่ดี

          แต่ผมต้องขอต่อว่าท่านนายกฯ โดยตรง เหมือนกับที่ว่าตอนบนครับ อย่ามัวแต่ห่วงว่าคนจะรักหรือเปล่า ยิ่งเป็นถึงนายกฯควรจะใส่ใจมากกว่าว่า คนเชื่อถือในคำพูดและการกระทำเราเพียงใด แต่แล้วผมก็เชื่อว่าท่านนายกฯคงไม่ได้คิดเองในสิ่งที่พูดไป ก็ไปว่ากันเองแล้วกันว่าได้ข้อมูลจากใคร




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กรณ์ ตำหนิ ยิ่งลักษณ์ ปมหนี้เสีย ธ.อิสลาม บอกหลอกลวงประชาชน โพสต์เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 11:10:46 1,944 อ่าน
TOP