เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก SATIAN PERMTONGIN
ป.ป.ช. อายัดที่ดิน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อีก 4 แปลง โดยทราบมาก่อนหน้านี้ว่า เจ้าตัวอยู่ระหว่างเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย แต่ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ทั้งทางโทรศัพท์มือถือ หรือเฟซบุ๊กส่วนตัว
เมื่อวานนี้ (28 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มีมติอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 65 ล้านบาทว่า ตลอดทั้งวันผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ของ พล.อ.เสถียร แต่ปรากฏว่า นายทหารคนสนิทเป็นผู้รับสายพร้อมกับปฏิเสธว่า ไม่ใช่เบอร์ของ พล.อ.เสถียร สงสัยจะโทรเบอร์ผิด ก่อนรีบวางสายไปทันที ขณะที่การติดต่อสื่อสารกับ พล.อ.เสถียร ผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น เฟซบุ๊ก SATIAN PERMTONGIN ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ พล.อ.เสถียร มักตอบการสนทนาทางมือถืออยู่เสมอก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ ดร.ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภริยาของ พล.อ.เสถียร ทางโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์ที่มีอยู่ แต่ปรากฏว่า เบอร์แรกได้ปิดเครื่องไป ขณะที่อีกเบอร์หนึ่งมีผู้รับสายพร้อมตอบกลับมาว่า ดร.ณัฐณิชาช์ ได้เปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้ว ไม่ได้ใช้เบอร์นี้
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ พล.อ.เสถียร จนทราบว่า อยู่ในระหว่างการเดินทางกับคณะผู้ไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย อีกหลายวันกว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งระหว่างที่พูดคุยนั้น พล.อ.เสถียร ไม่ได้รับแจ้งถึงการอายัดทรัพย์สินของ ป.ป.ช. แต่อย่างใด แต่เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ร.อ.หญิง ณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์ บุตรบุญธรรม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปเพื่อขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกอายัดทรัพย์ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (28 กุมภาพันธ์) นายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมแก่ ปปช. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีมาก โดยเฉพาะการไหลเข้าออกของเงินว่าไปไหนบ้าง โดยพบว่า มีการนำเงินในจำนวน 18 ล้านบาท ที่ฝากไว้ก่อนหน้านี้ ไปซื้อที่ดินใน จ.นครนายก อีก 4 แปลง มูลค่า 3.4 ล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินในส่วนนี้เพิ่มเติมทันที และนายสมบัติ ยังได้ชี้แจงว่า หนึ่งในบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงิน จำนวน 6 แสนกว่าบาทนั้น เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน และขอให้ ปปช. ถอนการอายัด ซึ่งทาง ปปช. ก็ถอนการอายัดให้ เพราะชี้แจงที่มาของเงินจำนวนนี้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีนี้ นายสมบัติถือเป็นนอมินีและมีความผิดหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ดูจากลักษณะทั้งหมดก็ถือว่าเข้าข่ายการถือครองทรัพย์สินแทน และเข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นก็ยังถือว่าบริสุทธิ์อยู่ เพราะยังไม่มีข้อมูลชี้ว่ามีความผิดอะไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
