x close

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก LEO RAMIREZ/AFP, CLAUDIO SANTANA/AFP, JUAN BARRETO/AFP

          ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว หลังต่อสู้โรคมะเร็งมานานกว่า 2 ปี ทางการเตรียมจัดพิธีศพวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม ขณะที่ประชาชนร่วมไว้อาลัย

          เมื่อวันที่ 6 มีนาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รองประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร คนสนิทของประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซุเอลา ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า นายฮูโก ชาเวซ วัย 58 ปี ซึ่งต่อสู้กับโรคมะเร็ง มานานกว่า 18 เดือน ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น. ของวันที่ 5 มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือตรงกับเมืองไทยเวลา 03.25 น. ของวันที่ 6 มีนาคม

          อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ได้ระบุด้วยว่า อาการป่วยด้วยโรคมะเร็งของ นายชาเวซ อาจเกิดจากวิธีการสกปรกของศัตรูที่จะโจมตีเวเนซุเอลา และในอนาคต คณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์จะสืบสวนเรื่องนี้ต่อไปด้วย ซึ่งภายหลัง ทางสหรัฐอเมริกาที่ถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์กับเวเนซุเอลาอยู่แล้ว ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าวทันที โดยระบุว่า เป็นเรื่องไร้สาระ

          ขณะที่ นายเอลิอาส คาอัว รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า ทางการจะจัดพิธีศพให้กับประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ในวันศุกร์ที่ 8 มีนาคมนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยประกาศไว้ทุกข์ 7 วัน และจะเคลื่อนศพนายชาเวซจากโรงพยาบาลไปยังโรงเรียนทหารในวันนี้ (6 มีนาคม)

          ด้านประชาชนชาวเวเนซุเอลาที่สนับสนุนประธานาธิบดีชาเวซ เมื่อได้รับทราบข่าว ก็พากันออกมารวมตัวหน้าโรงพยาบาล เพื่อแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยต่อประธานาธิบดีอันเป็นที่รักของพวกเขา นอกจากนี้ ผู้ใกล้ชิด และคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ ก็ได้เดินทางไปร่วมไว้อาลัย สวดมนต์ให้กับการจากไปของนายชาเวซที่โรงพยาบาลกันอย่างเนืองแน่น

          ทั้งนี้ การเสียชีวิตของชาเวซ ทำให้เวเนซุเอลาต้องจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 30 วัน โดยคาดว่า นายนิโคลัส มาดูโร รองประธานาธิบดี จะได้รับเลือกตั้ง

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา

ประวัติ ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

          นายฮูโก ชาเวซ มีชื่อเต็มว่า ฮูโก ราฟาเอล ชาเวซ ฟรีอัส (Hugo Rafael Chávez Frías) เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.1954 (พ.ศ.2497) ในครอบครัวยากจน บิดาซึ่งเป็นครูได้ส่งเขาและพี่ชายไปอยู่กับคุณย่า และได้เรียนหนังสือจนกระทั่งอายุ 17 ปี ฮูโก ชาเวซ ก็เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนทหารของเวเนซุเอลา ก่อนจะเข้าเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิโมนโบลิวาร์ (ตั้งตามชื่อของนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่แห่งละตินอเมริกา) แต่เรียนไม่จบ

          อย่างไรก็ตาม ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เอง ทำให้ ฮูโก ชาเวซ เริ่มสนใจการเมือง โดยเฉพาะแนวคิดฝ่ายซ้ายและอุดมการณ์ของ ซิโมน โบลิวาร์ จากนั้นเขาก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และสังคมอย่างเผ็ดร้อน ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่รับราชการทหาร นำไปสู่การก่อตั้งขบวนการปฏิวัติโบลิวาร์-200  (Revolutionry Bolivarian Movement-200) หรือ MBR-200 ขึ้น

          ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 การบริหารประเทศภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีคาร์ลอส อังเดร เปเรซ อยู่ในสถานะง่อนแง่น ฮูโก ชาเวซ ซึ่งเป็นผู้นำทางการทหารในช่วงนั้นได้ฉวยโอกาสก่อรัฐประหารขึ้น แต่กลับล้มเหลว เพราะขาดกำลังสนับสนุน ชาเวซจึงยอมจำนน และรับโทษจำคุก

          อย่างไรก็ตาม การรัฐประหารครั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย เพราะหลังจากนั้น ประธานาธิบดีคาร์ลอส อังเดร เปเรซ ก็ต้องก้าวลงจากตำแหน่ง ขณะที่ประชาชนชาวเวเนซุเอลาต่างยกให้ ฮูโก ชาเวซ เป็นขวัญใจ พร้อมกับชื่นชมที่เขากล้าลุกมาต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการและคอร์รัปชั่น ชาเวซต้องโทษจำคุกอยู่ไม่นานก็ได้รับการอภัยโทษ หลังจากประธานาธิบดีคนใหม่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนายเปเรซ

          จากนั้น ชาเวซได้ก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายในชื่อ "สาธารณรัฐครั้งที่ 5" (Fifth Republic Movement) ขึ้น และลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2541 ผลปรากฏว่า ประชาชนต่างชื่นชอบลีลาการปราศรัยที่ถึงลูกถึงคนของเขาเป็นอย่างมาก จึงเทคะแนนให้ จนได้รับการเลือกตั้ง และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 53 ของประเทศเวเนซุเอลาได้ในที่สุด

          ความนิยมของ ฮูโก ชาเวซ ยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากการใช้นโยบายด้านการต่างประเทศที่ประกาศจะอยู่ตรงข้ามกับสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน และการต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยม พร้อมกับเสนอแนวคิดเรื่องการร่วมมือกันของกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2548 จนถึงครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ฮูโก ชาเวซ ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งผู้นำของประเทศเป็นสมัยที่ 3 นับเป็นเวลาถึง 14 ปีที่เขาครองเก้าอี้ประธานาธิบดีไว้อย่างเหนียวแน่น

          อย่างไรก็ตาม หลังจาก ฮูโก ชาเวซ ได้รับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เขากลับยังไม่ทันได้ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เพราะมีอาการป่วยมะเร็งที่กระดูกเชิงกราน ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 ทำให้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ฮูโก ชาเวซ ได้เดินทางไปยังกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เพื่อเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่ 4 โดยก่อนเดินทางไปนั้น ฮูโก ชาเวซ ได้สั่งให้ รองประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ซึ่งเป็นคนสนิทขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศแทน หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา

          หลังจากการผ่าตัด อาการของ ฮูโก ชาเวซ ทรุดหนัก เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่า หากนายชาเวซเป็นอะไรไป จะทำให้สถานการณ์ในประเทศเกิดความความวุ่นวายขึ้น แต่จากนั้นไม่นาน นายชาเวซก็มีอาการดีขึ้นเล็กน้อย และได้เดินทางกลับมาพักฟื้นที่โรงพยาบาลทหาร ในกรุงการากัส เมืองหลวงของประเทศเวเนซุเอลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา

          ในช่วงที่กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านเกิดนั้น นายฮูโก ชาเวซ ยังได้ทวีตข้อความขอบคุณชาวเวเนฯ ที่ให้กำลังใจเขาด้วย แต่ทว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีข่าวออกมาอีกว่า อาการของประธานาธิบดีคนดังเกิดทรุดหนักขึ้นมาอีก กระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในที่สุดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม

          ตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่ ฮูโก ชาเวซ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขามีผลงานมากมาย ทั้งการปฏิรูปการเมือง ด้วยการสร้างขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดตั้งองค์กรประชาสังคมขึ้นในทุกชุมชน ทุกเขต ทุกจังหวัด แล้วนำงบประมาณส่วนหนึ่งจากภาษีอากร และรายได้จากการขายน้ำมันไปให้องค์กรเหล่านี้ เพื่อไปดำเนินการในเรื่องการสุขอนามัย การศึกษา การฝึกอาชีพ สร้างสถานอนุบาลเด็กอ่อน

          ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือ การที่ นายฮูโก ชาเวซ พยายามขจัดปัญหาความยากจนของประเทศให้หมดไป ด้วยการตั้งกระทรวงการเคหะ เพื่อแก้ปัญหาคนไร้บ้าน ตั้งกระทรวงอาหาร เพื่อแก้ปัญหาประชาชนอดอยาก และตั้งกระทรวงพลังเศรษฐกิจรากหญ้า เพื่อช่วยปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชน และธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อให้พวกเขาตั้งตัวได้

          ขณะเดียวกัน นายฮูโก ชาเวซก็ยังจัดสรรงบประมาณอีกกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยกระดับชีวิตของคนยากคนจน ทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย การศึกษา และสาธารณสุข โดยคนชราทุกคนจะได้เงินเลี้ยงดูจากรัฐทุกเดือน พร้อมกับมีโครงการขายน้ำมันวันละ 53,000 บาร์เรล ให้กับประเทศคิวบาในราคาพิเศษ แลกกับการให้คิวบาส่งแพทย์อาสาสมัครจำนวน 13,000 คน เข้ามาดูแลคนป่วย เด็ก ๆ และคนชรา ในประเทศเวเนซุเอลา โดยที่จะต้องไม่คิดค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น

          จากผลงานทั้งหลายปวงที่ทำเพื่อคนรากหญ้านี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมประชาชนชาวเวเนซุเอลาถึงรักและเทิดทูนผู้นำคนนี้ จนได้รับการสนับสนุนให้ครองตำแหน่งสูงสุดมานานถึง 14 ปี และถือเป็นผู้นำอีกคนหนึ่งที่มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในระดับโลกในรอบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   



 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว โพสต์เมื่อ 6 มีนาคม 2556 เวลา 07:55:07 3,651 อ่าน
TOP