เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ศาลสั่งจำคุก 1,410 ปี เจ้าหน้าที่กองสลาก-แม่ค้า หลอกชาวบ้านว่าได้โควตาลอตเตอรี่ ชวนลงทุนด้วย ก่อนตุ๋นเล่นแชร์ สูญกว่า 120 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 มีนาคม) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวเปล่งศรี ศรีพงษ์กุล อายุ 43 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, นางสาวอัจฉรา ทองหุ้ม อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย และนายลือศักดิ์ ชมชาติ อายุ 40 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อายุ 40 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1- 3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงิน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อศาลได้พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83 และ พ.ร.ก. การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5 และ 12 เป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ ฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นบทหนักสุด 282 กระทง มีโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสองไว้คนละ 1,410 ปี อย่างไรก็ตาม กฎหมายกำหนดให้จำคุกสูงสุดเพียง 20 ปีเท่านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 ศาลให้ยกฟ้อง
สำหรับคดีดังกล่าว ตามคำฟ้องของโจทก์ที่ยื่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553 ระบุว่า ในช่วงปลายปี 2545 ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2551 จำเลยทั้ง 3 กับพวกที่ยังหลบหนี ได้สมคบกันหลอกลวงประชาชน เหตุเกิดที่แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ว่า ได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจากกระทรวงการคลังมาหลายหมื่นเล่ม จึงชักชวนให้ผู้เสียหายมาร่วมลงทุนจำหน่ายสลากฯ ด้วยกัน โดยจะได้รับผลตอบแทนจากยอดเงินลงทุน 3,720 บาท ตั้งแต่ 80-200 บาท ทุก 15 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.3 10.7 ต่อเดือน หรือร้อยละ 51.6129 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ที่ร้อยละ 6.5 ต่อปีเท่านั้น
จากนั้น ได้มีประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนร่วมกับจำเลย 33 ราย รวมเป็นเงิน 126,165,090 บาท แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่พวกจำเลยกระทำล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะจำเลยไม่ได้รับโควตาจำหน่ายสลากกินแบ่งฯ แต่อย่างใด และยังกระทำการในลักษณะฉ้อโกงแบบแชร์ลูกโซ่ พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้องดังกล่าว แต่จำเลยให้การปฏิเสธ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก