จัดการ profile
kapook market
Sign Out
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
กลุ่มแรงงาน เตรียมชุมนุมหน้าสถานทูตต่าง ๆ ตั้งแต่วันนี้ (13 มี.ค.) ระบุ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ฆ่าแรงงานตายทั้งเป็น ทั้งถูกไล่ออกกว่า 2 แสนราย บ้างก็เพิ่มเวลาการทำงาน
เมื่อวานนี้ (12 มีนาคม) มีการประชุมหาแนวทางการแก้ปัญหาการถูกเลิกจ้างและเปลี่ยนสภาพการจ้างงานจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ โดยคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยร่วมกับตัวแทนสหภาพแรงงาน 4 แห่ง หลังจากที่มีแรงงานถูกเลิกจ้างกว่า 2 แสนคน เมื่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งมีสาระการประชุม ดังนี้
นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (ครท.) เผยว่า อยากให้รัฐบาลยอมรับผลกระทบต่อการขึ้นค่าแรงตามความเป็นจริง ไม่ใช่ระบุแค่ว่ามีแรงงานถูกเลิกจ้างเพียง 2 พันคน เนื่องจากต่างประเทศยกเลิกคำสั่งซื้อ ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้สร้างความเจ็บปวดแก่แรงงาน ดุจดั่งการฆ่าแรงงานให้ตายทั้งเป็น เพราะนอกจากถูกเลิกจ้างแล้ว ยังมีการเพิ่มวันทำงานจาก 5 วัน เป็น 6 วันอีกด้วย จึงอยากให้รัฐบาลใส่ใจแรงงานมากกว่านี้
นอกจากนี้ นายชาลี ยังระบุด้วยว่า ในวันนี้ (13 มีนาคม) ทาง ครท. จะเริ่มยกระดับการต่อสู้เพื่อแรงงาน โดยมีแนวทางไปกดดันสถานทูตต่าง ๆ ที่มาลงทุนในประเทศไทย แต่กลับกดขี่แรงงานไทย เริ่มต้นด้วยสถานทูตออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์
ด้านนายไพรวัลย์ เมทา ประธานสหพันธุ์แรงงานบริษัทแห่งหนึ่ง จ.ระยอง เปิดเผยว่า บริษัทที่ตนเองสังกัดมีทุนจดทะเบียน 830 ล้านบาท พนักงาน 800 คน แต่กลับปลดพนักงานเก่า 129 ราย ที่ไม่ได้รับการปรับค่าแรงขั้นต่ำเลย และพยายามที่จะสลายสหภาพแรงงานอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยร้องเรียนรัฐบาลและกระทรวงแรงงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการใส่ใจ
ขณะที่ นายวินัย จันทร์รักษา ลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองขับรถให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทั่วประเทศ มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท แต่กลับตั้งกฎให้พนักงานไม่มีวันหยุดและไม่ได้รับเงินเพิ่ม หลังจากปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว รวมถึงต้องส่งสินค้าให้ได้ตามเวลาที่กำหนด ดังนั้นทำให้พนักงานหลายรายเสียชีวิต เพราะหลับในขณะขับรถ และบริษัทยังเลิกจ้างพนักงาน 50 คน ที่ทำยอดไม่ได้ตามเป้าอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
- สำนักข่าวอิศรา
