สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
นายกรัฐมนตรี หวัง ป.ป.ช. ให้ความเป็นธรรม ปมปล่อยกู้เงิน 30 ล้านบาท พร้อมขอโอกาสในการทำงานต่อจนครบวาระ ปัดมี นายกรัฐมนตรีสำรอง ด้าน ป.ป.ช. คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์สรุป ตั้งปม 2 ประเด็น งบดุล-ดอกเบี้ยบริษัท
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2556 นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. กรณีการปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาทให้บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ที่มี นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินเท่านั้น โดยมีประเด็นตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ
1. การที่นายกฯ ให้กู้ยืมเงิน 3 ครั้ง ในปี 2549 และ 2550 ต้องดูรอบระยะบัญชี ของบริษัท ว่ามีการกำหนดรอบระยะบัญชีไว้ตั้งแต่เมื่อใดถึงเมื่อใด และรอบระยะบัญชีอยู่ในช่วงการกู้ยืมเงินหรือไม่ และถ้าอยู่ ได้มีการแจ้งในงบดุลบัญชีบริษัทหรือไม่ ซึ่งรอบระยะเวลาบัญชีของแต่ละบริษัทจะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน
2. ดอกเบี้ยเงินกู้ที่นายกฯ และบริษัทแจ้งกำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน โดยนายกฯ แจ้งว่า คิดอัตราดอกเบี้ยตามเงินฝากประจำของธนาคารกรุงไทยที่ร้อยละ 1 ขณะที่งบดุลของบริษัทแจ้งว่า คิดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.50-3.75 ต่อปี
"เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าพบว่ามีความผิดปกติจะเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ก็คงจะสรุปเสนอกรรมการ ป.ป.ช. ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จะต้องตรวจสอบหรือไม่" นายกล้านรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. (19 มีนาคม) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการปล่อยเงินกู้ จำนวน 30 ล้านบาท ให้ บริษัทแอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ซึ่ง นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีถือหุ้นบริหารนั้น ยืนยันว่า ได้ส่งข้อมูลให้กับคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามขั้นตอนทุกอย่าง ขณะที่ หวังว่า ป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรมและพิจารณาอย่างยุติธรรมต่อตนเอง พร้อมขอโอกาสในการทำงานต่อจนครบวาระ และปฏิเสธกระแสข่าวไม่มีการตั้ง นายกรัฐมนตรีสำรอง เนื่องจาก เหลือเวลาทำงาน อีก 1 ปีกว่าเท่านั้น เพราะได้รับโอกาสจากประชาชน จึงอยากทำงานจนครบวาระ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ครม. ได้อนุมัติ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยยืนยันว่า เป็นโครงการที่จะทำให้ประเทศได้รับประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความรัดกุม โปร่งใส ประชาชนสามารถวัดผลและตรวจสอบได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมจะชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ต่อสภาผู้แทนราษฎร ด้วยตัวเอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
