เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
ยิ่งลักษณ์ เผย ครม. ไฟเขียว พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทแล้ว เตรียมเข้าสู่ที่ประชุมสภาสัปดาห์หน้า ยัน ใช้งบประมาณปกติไม่ได้ เพราะโครงการโครงสร้างพื้นฐานล่มแน่
วันนี้ (19 มีนาคม) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีการพิจารณาวาระที่สำคัญ คือ การขอความเห็นจาก ครม. เพื่อขออนุมัติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยกรอบลงทุนครั้งนี้ จะครอบคลุมใน 5 ด้าน คือ
1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งด้วยระบบราง ใช้งบ 1.185 ล้านล้านบาท
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งทางบก ใชังบ 4.29 แสนล้านบาท
3. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งทางน้ำ ใช้งบ 1.26 แสนล้านบาท
4. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งทางอากาศ ใช้งบ 66,989 ล้านบาท
5. โครงสร้างพื้นฐานด้านอื่น ๆ ใช้งบ 392,786 ล้านบาท
โดย นายอุดมเดช รัตนเสถียร ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล กล่าวว่า หาก ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน ผ่าน ครม. วันนี้ ก็สามารถบรรจุในระเบียบวาระต่อไปได้ทันที แต่ก็ต้องขึ้นกับความเหมาะสมว่า จะมีการเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไปยื่นเรื่องจริง รัฐบาลและตนก็ยินดีที่จะชี้แจงรายละเอียดการลงทุนให้ได้รับทราบกัน และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน แน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความ ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน แล้ว อีกทั้งในการก่อสร้างโครงการก็ทำตามระเบียบทุกอย่าง รวมทั้งตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. , สตง. หรือการทำ อีไอเอ
ล่าสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จเรียบร้อยแล้วว่า ทางที่ประชุม ครม. มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอชี้แจงว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไม่สามารถใช้งบประมาณปกติได้ เนื่องจากอาจจะทำให้โครงการล่ม ถ้าใช้เงินแบบปีต่อปี และขอยืนยันว่า การลงทุนนี้ จะต้องโปร่งใส
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การที่ ครม. อนุมัติ พ.ร.บ.เงินกู้ นี้ จะสร้างความมั่นใจแก่ผู้ปฏิบัติงานว่า ในปีต่อ ๆ ไป ก็ยังได้รับงบประมาณอยู่ ส่วนเรื่องการชำระหนี้สิน คาดว่าจะชำระหมดก่อน 50 ปีอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญคือ สิ่งที่สร้างมานั้น จะอยู่กับประเทศไปอีก 100 ปี นอกจากนี้ ขอยืนยันว่า พ.ร.บ. นี้มีมาตรฐานสูงสุดเท่าที่เคยมีมา มากกว่า พ.ร.ก. ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยกู้ตอนสมัยเป็นรัฐบาลเสียอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก