เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ AssociatedPress สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 19 มีนาคมว่า ตำรวจฟลอริดาของสหรัฐฯ สกัดแผนสังหารหมู่นักศึกษาในหอพักมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดาได้ทันเวลา ส่วนนักศึกษาหนุ่มวัย 30 ปี ผู้ก่อเหตุ ชิงฆ่าตัวตายเมื่อรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้าจับกุม
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในหอพักมหาวิทยาลัยเซ็นทรัล ฟลอริดา เมื่อช่วงเที่ยงคืน รอยต่อระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคมที่ผ่านมา นายเจมส์ โอลิเวอร์ ซีวากุมาราน นักศึกษาวัย 30 ปี ได้วางแผนก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ โดยเตรียมอาวุธไว้ครบมือ ได้แก่ ปืน 2 กระบอก ลูกกระสุนหลายร้อยนัด และกระเป๋าสะพายที่บรรจุลูกระเบิด จากนั้น เขาก็เริ่มต้นแผนสังหารด้วยการใช้อาวุธปืนขึ้นมาขู่รูมเมท ทำให้รูมเมทของเขาหนีไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากนั้น เจมส์ก็ได้เดินออกไปนอกห้องพัก แล้วเปิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ หวังจะให้นักศึกษาในหอพักกว่า 500 คน วิ่งออกจากหอพักไปรวมตัวกันหน้าหอพัก เพื่อให้สะดวกต่อการกราดยิง แต่ระหว่างนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็นำกำลังมาสกัดแผนสังหารนี้ ซึ่งเมื่อเขารู้ตัวว่าเรื่องนี้ถึงหูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เขาก็ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องพักของเขาเอง และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ทราบมูลเหตุในการก่อเหตุที่แน่ชัด แต่เบื้องต้นพบว่า เจมส์กำลังถูกทางหอพักไล่ออกจากหอพัก เพราะตามกฎของหอพัก คือ นักศึกษาที่เข้าพักได้ต้องเป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในเทอมปัจจุบันด้วย แต่นายเจมส์ไม่ได้ลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้แต่อย่างใด และจากการตรวจสอบภายในห้องของเขา พบว่าเจมส์ได้วางแผนสังหารหมู่ครั้งนี้อย่างเป็นขั้นตอน มีการระบุว่าเขาจะไปที่ไหนก่อน และทำอะไรก่อนหลังตามลำดับ ซึ่งก็โชคดีที่ว่า ยังไม่ทันที่เขาจะลงมือฆ่าใคร เขาก็ถูกตำรวจสกัดจับไว้ก่อน ทำให้แผนการของเขาครั้งนี้ ไม่กลายเป็นโศกนาฏกรรมเช่นหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา
