x close

ร้องสื่อ! น้องชายถูก ตร. ขับรถไล่ชน อาการโคม่า แต่ไม่รับผิดชอบ

 ร้องสื่อ! น้องชายถูก ตร. ขับรถไล่ชน อาการโคม่า แต่ไม่รับผิดชอบ

 ร้องสื่อ! น้องชายถูก ตร. ขับรถไล่ชน อาการโคม่า แต่ไม่รับผิดชอบ

 ร้องสื่อ! น้องชายถูก ตร. ขับรถไล่ชน อาการโคม่า แต่ไม่รับผิดชอบ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  สปริงนิวส์

          ญาติร้องสื่อ! น้องชายถูกรถตำรวจไล่ชน อาการโคม่า แต่บ่ายเบี่ยงรับผิดชอบ แฉรถที่ก่อเหตุหายไป อีกทั้งยังเอาตำรวจคนละนายมาเป่าแอลกอฮอล์

          วันนี้ (20 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวลภัสรดา ห่อทอง อายุ 30 ปี พร้อมญาติพี่น้องกว่า 20 คน ได้นำภาพถ่ายอุบัติเหตุและอาการบาดเจ็บของ นายปิยะ ห่อทอง อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้นำเสนอข่าว และขอความเป็นธรรมให้กับน้องชาย หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถชน จนอาการสาหัส สมองบวม ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์

          ทั้งนี้ นางสาวลภัสรดา เล่าถึงอุบัติเหตุดังกล่าวให้ฟังว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณ 4 แยกก่อนเข้าหมู่บ้านจารย์ ต.อาโพน อ.บัวเชด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของ สภ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ได้ขับรถตราโล่ของตำรวจ หมายเลขทะเบียน 4550 กทม. ไล่ชนรถจักรยานยนต์โบราณ ไม่ได้ติดทะเบียน ของน้องชายจนล้มคว่ำนอนหมดสติ และได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับระบุว่า ในวันเกิดเหตุน้องชายของตนขับรถฝ่าด่านตำรวจ ซึ่งอยู่ห่างจาก 4 แยกป้อมยามตำรวจบ้านจารย์ไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขับรถไล่ล่า ซึ่งชาวบ้านและญาติ ๆ ขอยืนยันตรงนี้เลยว่า ไม่มีการตั้งด่านในวัน เวลา และบริเวณดังกล่าวอย่างแน่นอน
 
          สำหรับการร้องเรียนต่อสื่อมวลชนในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องชาย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่ขับรถไล่ล่าน้องชาย คือ ด.ต.ประมูล วันทอง ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล และทั้งคดีอาญา รวมถึงดำเนินการทางวินัยกับตำรวจนายนี้ให้ถึงที่สุด

          นางสาวลภัสรดา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาตนและญาติพี่น้อง พยายามติดต่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีและความรับผิดชอบกับทางเจ้าหน้าที่ สภ.บัวเชด แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนรถยนต์ตราโล่ที่ชนน้องชาย ตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไปหลบไว้ที่ไหน อีกทั้งในวันที่เกิดเหตุยังพบพิรุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนว่า ถ้าลงบันทึกประจำวันแล้วไม่ต้องแจ้งความอีก ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาลงบันทึกประจำวันไว้ว่าอย่างไร พอตนให้วัดระดับแอลกอฮอล์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00 น. แต่โผล่มาวัดตอน 01.00 น. แถมยังเป็นตำรวจกับคนละคนที่ก่อเหตุอีกด้วย ซึ่งทำให้ผลการวัดระดับแอลกอฮอล์ออกมาเป็นศูนย์

          ท้ายนี้ พี่สาวของผู้บาดเจ็บ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากจะวิงวอนผู้บังคับบัญชาให้นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุจริง ๆ มารับผิดชอบ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทำเกินกว่าเหตุ และโหดร้ายกับประชาชนเกินกว่าจะยอมรับได้ และตนก็ไม่ทราบว่าทำไมตำรวจคนนั้น ต้องขับรถไล่ล่าน้องชายตนด้วย

          อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) นางสาวลภัสรดา ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และยื่นหนังสือร้องเรียนกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ให้ทราบเรื่องแล้ว เพื่อให้นำตัวตำรวจตัวจริงนายนี้ออกมารับผิดชอบแล้ว



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ร้องสื่อ! น้องชายถูก ตร. ขับรถไล่ชน อาการโคม่า แต่ไม่รับผิดชอบ โพสต์เมื่อ 20 มีนาคม 2556 เวลา 16:36:48
TOP