เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
แม่หงุดหงิดลูกสาว 2 ขวบ ร้องไห้ไม่หยุด จับลูกทุ่มลงพื้นกะโหลกแตก อาการสาหัส คาด อากาศร้อนจัด ทำเครียด-หงุดหงิดง่ายจนพลั้งมือทำร้ายลูก
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวแม่เครียดจัดเพราะอากาศร้อน จับลูกวัย 2 ขวบที่ร้องไห้เสียงดังไม่ยอมหยุด ทุ่มลงพื้น จนกะโหลกศีรษะแตก ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่า แม่คนดังกล่าว ชื่อ นางอนันมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี อยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และมีลูกสาวชื่อ เด็กหญิงอนงค์ หรือ น้องอ้อ อายุ 2 ขวบ 3 เดือน โดย นางละมุน เพื่อนบ้านวัย 62 ปีที่พาน้องอ้อมาส่งโรงพยาบาล เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนอยู่ในบ้าน อยู่ ๆ ได้ยินเสียงน้องอ้อร้องไห้เสียงดังออกมาจากบ้านข้าง ๆ กัน จึงเดินเข้าไปดูก็เห็นน้องอ้อฟุบอยู่ที่พื้น เมื่อถาม นางอนันมา ว่าเกิดอะไรขึ้น นางอนันมาก็ไม่ยอมพูดอะไร บอกแค่จะพาลูกไปหมอ แล้วก็ช่วยกันพาตัวน้องอ้อไปส่งที่โรงพยาบาลหนองหงส์ อำเภอหนองหงส์ ซึ่งแพทย์ก็ตรวจพบว่า น้องอ้อกะโหลกศีรษะแตก อาการสาหัส จึงต้องส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
นางละมุน เล่าต่อว่า ระหว่างที่ตนและนางอนันมานั่งอยู่บนรถฉุกเฉิน เพื่อนำตัวน้องอ้อมาส่งที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ตนได้พยายามสอบถามนางอนันมาว่าเกิดอะไรขึ้น จนนางอนันมายอมเล่าให้ฟังว่า เป็นเพราะน้องอ้อร้องงอแงไห้เสียงดัง ทำให้นางอนันมาเกิดความหงุดหงิด จึงใช้เท้าถีบน้องอ้อไป 2 ครั้ง และจับตัวน้องอ้อทุ่มลงพื้นดินอีก 2 ครั้ง จนลูกแน่นิ่งไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นนางอนันมาทำร้ายลูกรุนแรงขนาดนี้มาก่อน ปกตินางอนันมาจะอาศัยอยู่กับลูก 3 คน โดยน้องอ้อนี้เป็นคนเล็ก ส่วนพ่อของเด็กไปทำงานที่กรุงเทพฯ นาน ๆ จะกลับมาเยี่ยมที่บ้านสักครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัตินางอนันมา แต่ก็ไม่พบว่ามีประวัติรักษาอาการทางประสาท จึงคาดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดทำให้เกิดความเครียด เมื่อนางอนันมาเห็นลูกร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด จึงหงุดหงิดและพลั้งมือก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
