เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จับตา! พม่าหยุดจ่ายก๊าซวันแรก ชี้จุดเสี่ยง ลาดพร้าว-รัชดา-บางกะปิ หายห่วง บอกไฟสำรองมีเพียงพอ ด้าน รมว.พลังงาน อยากให้ช่วยกันประหยัดไฟอีกรอบ ในวันที่ 9-10 เมษายน กันปัญหาไฟตก
วันนี้ (5 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางพม่าจะหยุดจ่ายก๊าซให้กับประเทศไทย เพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซม ส่งผลให้ก๊าซหายไปจากระบบจำนวน 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งผลให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบ 4,100 เมกะวัตต์ ทำให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน มีคำสั่งให้ทุกฝ่ายช่วยกันจัดหาไฟให้เพียงพอ และขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมลดไฟฟ้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงไฟตก และช่วยกันดับไฟในบางพื้นที่
สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดปัญหาไฟฟ้าตก หรือดับ ประกอบด้วย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตบางส่วน, พื้นที่ถนนรัชดา และถนนลาดพร้าวบางส่วน, พื้นที่เขตบางกะปิ โดยเฉพาะแขวงคลองตัน ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ทำการสลับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปริมาณเพียงพอ เข้ามาชดเชยกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า ในวันที่ 5 เมษายน ผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว เนื่องจากมีไฟสำรอง 1,660 เมกะวัตต์ แต่อาจจะเกิดปัญหาในวันที่ 9-10 เมษายนนี้แทน จึงอยากจะขอความร่วมมือประชาชน ภาคเอกชน และโรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า ให้ช่วยกันประหยัดไฟอีกครั้ง คือวันที่ 9-10 เมษายน เพราะอาจจะทำให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองไม่เพียงพอก็เป็นได้ ถึงแม้ตัวเลขจะออกมาในปริมาณ 1,440 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอ แต่เพื่อป้องกันปัญหาการไฟตก-ไฟดับ จึงอยากจะขอความร่วมมือให้ประหยัดกันอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ทาง กฟน. ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ตั้งศูนย์ฉุกเฉิน หรือวอร์รูม เพื่อติดตามตรวจสอบ พร้อมประสานงานการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันที หรือหากเกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างจะประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย หรือ กฟผ. เพื่อหาสาเหตุและดำเนินการแก้ไขให้ตรงจุด
ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ เมืองการท่องเที่ยว และเมืองอุตสาหกรรม เช่น ชลบุรี พัทยา เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมรถโมบาย ดีเซล จำนวน 120 คัน และสำรองไฟฟ้าอีก 1900 เมกะวัตต์
ขณะที่ กฟผ. เขื่อนภูมิพล ได้ความพร้อมทำตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยเขื่อนภูมิพลระบายน้ำตามแผนวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร กระแสไฟฟ้าที่ได้จากการระบายน้ำจะถูกส่งไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูง ในความรับผิดชอบ 4 สถานี ที่จังหวัดตากฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก 2 สถานี จังหวัดสุโขทัย และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง รวมกัน 1 สถานี และที่จังหวัดนครสวรรค์อีก 1 สถานี โดยสถานีไฟฟ้าดังกล่าว จะทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบตามความต้องการ
และถ้าหากเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ในช่วงที่พม่าหยุดจ่ายก๊าซ เขื่อนภูมิพล ก็พร้อมระบายน้ำเพิ่มตามคำสั่ง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่อยู่ ณ เวลานี้ จะสามารถกระแสไฟฟ้าได้เต็มที่ไม่เกิน 307 เมกะวัตต์ โดย กฟผ.เขื่อนภูมิพล ยืนยัน จะปฏิบัติภารกิจในช่วงที่เกิดวิกฤตไฟฟ้า โดยจะจัดการระบบจำหน่ายให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
