เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษของจำเลยที่ 1 มือวางระเบิดหน้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ให้รับโทษจำคุก 10 ปี แต่เนื่องจากรับสารภาพจึงเหลือโทษ จำคุก 5 ปี ปรับ 50 บาท
หลังจากที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอนก สิงขุน เป็นจำเลยที่ 1 พร้อมกับพวกอีก 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันทำวัตถุระเบิด มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และกระทำให้เกิดระเบิดฯ จากกรณีที่นายเอนก ได้ร่วมกับพวกอีก 5 คน ซุกซ่อนระเบิดในรถขายผลไม้ก่อนเข็นไปจอดทิ้งไว้บริเวณที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ซอยพหลโยธิน 43 จนเกิดเหตุระเบิดทำให้อาคารพรรคภูมิใจไทยเสียหาย ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 จนนายเอนกได้รับบาดเจ็บและตาบอดนั้น
ในวันนี้ (9 เมษายน) ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้โทษของจำเลย จากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ที่ให้จำเลยที่ 1 รับโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพ ประกอบกับจำเลยได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด จนตาบอดทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งพยานโจทก์เบิกความเชื่อมโยงกันว่า จำเลยกับพวกมีการแบ่งหน้าที่กันเป็นขั้นตอน จึงพิพากษา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 35 ปี ปรับเป็นเงิน 50 บาท
โดยศาลอุทธรณ์นัดประชุมคดีแล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว จึงพิพากษาแก้โทษจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิด เหลือจำคุก 5 ปี ส่วนฐานทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ จำคุก 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 5 ปี ปรับ 50 บาท
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ศาลแยกสำนวนออกมาพิพากษาก่อน ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 5 คน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
