เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตลิ่งหน้าวัดกลางคลองวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ทรุดเป็นแนวยาวกว่า 200 เมตร ทำให้สะพานร้อยปีพังเสียหาย คาดสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ระดับน้ำในคลองลดลง จนส่งผลให้ดินทรุดตัว
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (9 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากพระใบฎีกาเอกลักษณ์ อภัสโร อายุ 30 ปี เจ้าอาวาสวัดกลางคลองวัฒนาราม หมู่ 1 ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ดินบริเวณหน้าวัดซึ่งอยู่ริมคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน เกิดทรุดตัวลงไปเป็นทางยาว จนทำให้ศาลาท่าน้ำและบริเวณข้างเคียงพังเสียหายจึงเดินทางไปตรวจสอบ
โดยในที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณด้านหน้าวัดซึ่งอยู่ริมคลองมีการตกแต่งเป็นสวนหย่อมอย่างสวยงาม และมีการจัดทำเป็นร้านค้าและแพสำหรับให้อาหารปลา โดยมีการสร้างเขื่อนเป็นแนวยาวประมาณ 12 เมตร ซึ่งบริเวณริมตลิ่งมีการทรุดตัวยาวเข้ามาในวัดประมาณ 8 เมตร และทรุดลงไปประมาณ 2 เมตร ทำให้สวนหย่อมที่เพิ่งสร้างและตกแต่งพังลงไปด้วย รวมไปถึงศาลาท่าน้ำและสะพานคอนกรีตที่เชื่อมกับท่าน้ำก็พังทรุดลงไป และเสาด้านล่างยังโอนเอียงอีกหลายต้น
นอกจากนี้ การทรุดตัวของดินริมคลองยังส่งผลให้สะพานร้อยปีที่ทางวัดอนุรักษ์เอาไว้ทรุดตัวพังลงไปด้วย รวมไปถึงเขื่อนคอนกรีตที่สร้างไว้ 12 เมตร พังลงทั้งหมด รวมระยะทางที่มีการทรุดตัวประมาณเกือบ 200 เมตร และคาดว่าอาจะมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง
ด้านพระใบฎีกาเอกลักษณ์ เปิดเผยว่า บริเวณริมคลองมีการตกแต่งปรับภูมิทัศน์หลังเกิดวิกฤติน้ำท่วม จากนั้นก็มีการสร้างเป็นวังปลา และภายในวัดอยู่ระหว่างการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ด้วย ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีประชาชนมาเที่ยวเชิงนิเวศน์จำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อ 22.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน ได้ยินเสียงคล้ายกับแผ่นดินไหว จากนั้นก็มีเสียงคลืนลงไปในคลอง ทำให้พระและเณรรีบวิ่งออกไปดู แต่พบว่าศาลาท่าน้ำและบริเวณสวนหย่อมริมคลองได้ทรุดลงไปแล้ว และมีการมทรุดเป็นแนวยาวต่อมาเกือบทุกวัน
สำหรับสาเหตุการทรุดตัวของดินในครั้งนี้คาดว่า เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดทำให้ระดับน้ำในคลองส่งน้ำเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ที่อยู่หน้าวัดลดลงมาก จนกระทั่งส่งผลให้ดินทรุดตัวลงไปดังกล่าว ซึ่งทาวัดจะรอจนกว่าการทรุดตัวจะหยุด จึงจะหาวิธีการในการป้องกันและถมดิน รวมทั้งสร้างแนวป้องกันใหม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังพบว่า ถนนชลประทานสายเสนา-ผักไห่ ก็มีอาการทรุดตัวหลายจุดด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
