x close

อลงกรณ์ ร่ายยาว ประชาธิปัตย์ ถึงเวลาต้องปฏิรูป!





 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            อลงกรณ์ พลบุตร โพสต์ทวิตเตอร์ ชี้ พรรคประชาธิปัตย์ ถึงเวลาต้องปฏิรูปแล้ว ระบุ พรรคแพ้ทักษิณไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะปรับตัวไม่ทัน

            เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนข้อความเกี่ยวกับ "ปฏิรูปประชาธิปัตย์" ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว @alongkornpb โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องปฏิรูปตัวเอง หากยังคิดเหมือนเดิมก็มีแต่จะแพ้พรรคเพื่อไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพรรคไม่ได้แพ้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเงิน แต่แพ้เพราะคิดไม่ทัน ปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งพรรคก็ยังเสียแนวร่วมไปมาก หลังถูกสื่อ-นักวิชาการวิจารณ์ แล้วไปสรุปว่าเป็นพวกทักษิณ

            "การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนที่ส่งผล และเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการเมือง และการปฏิรูปประเทศไทย หลายปีมานี้ ประเทศไทยตกอยู่ในวังวนของความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำลายเอกภาพและศักยภาพของประเทศจนขีดความสามารถของชาติถดถอย ขณะที่การคอร์รัปชั่นในวงการเมืองและราชการ ระบาดรุนแรงเหมือนมะเร็งร้ายเกาะกินบ้านเมือง จนประเทศชาติเสมือนคนป่วยหนักโคม่า

            การเมืองพัฒนาสู่ระบบ 2 พรรคใหญ่ เหมือนในอังกฤษและอเมริกา โดยมีพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ผลัดกันเป็นแกนนำรัฐบาล การต่อสู้ทางการเมืองทั้งในและนอกสภาฯ เป็นไปอย่างเข้มข้น แบ่งสีแตกแยกจนมองไม่เห็นอนาคตของประเทศว่าจะจบลงที่ตรงไหน คำถามคือ แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เมื่อไร และโดยใคร ผมคิดว่า เราต้องเริ่มแก้ไขที่ 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย

            ผมไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องกับกิจการภายในของพรรคเพื่อไทย แต่ก็หวังว่าจะมีการปฏิรูปพรรคสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองพร้อมกับพรรคประชาธิปัตย์ การผลักดันให้มีการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มุ่งหมายจำกัดผลเฉพาะประโยชน์ที่จะเกิดกับพรรคของตัวเอง แต่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมใหญ่ประจำปี ผมเสนอให้เอาวันประชุมใหญ่ 23 มีนาคม เป็นวันดีเดย์การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ผมเสนอให้ปฏิรูปพรรคอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม

            1. ปฏิรูปโครงสร้าง
            2. ปฏิรูปการบริหารจัดการ
            3. ปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรและบุคลากร

            ผมบอกว่า ถ้าเราต้องการชนะเลือกตั้งก็ต้องปฏิรูปพรรค เพราะหลังจากชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนกันยายน 2535 เราพ่ายแพ้มาตลอด 21 ปี การแพ้ต่อเนื่อง 21 ปี คือโจทย์ใหญ่ แม้เราจะพยายามแก้ไขเพื่อให้กลับมาชนะบ้าง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อเกิดพรรคไทยรักไทย การเลือกตั้งปี 2544 เราแพ้พรรคไทยรักไทย ที่มี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจหมื่นล้านเป็นหัวหน้าพรรค และแพ้มากขึ้นทุกที แม้ว่าหลายคนในพรรคจะปักใจว่า ปี 2544 พรรคแพ้เพราะเงิน แต่หลายคนรวมทั้งผมคิดว่า เราแพ้เพราะ "คิดไม่ทัน ปรับตัวไม่ทัน"

            สโลแกน "คิดใหม่ ทำใหม่" และรูปแบบหาเสียงใหม่ ๆ โดยเฉพาะนโยบายใหม่ ๆ คำสั้น ๆ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้านฯลฯ โดนใจประชาชน เมื่อไทยรักไทยชนะได้เป็นรัฐบาลก็ลงมือทำทันที จนสร้างความเชื่อมั่นว่า "ทำได้อย่างที่พูด" จึงผูกใจประชาชน และเป็นเช่นนั้นจนถึงวันนี้

            รัฐบาล "ทักษิณ" และรัฐบาลปัจจุบันแยก "การบริหารกับการเมือง" ออกจากกัน โดยรัฐบาลบริหารสร้างผลงานและให้พรรครับงานการเมือง เมื่อคู่แข่งเปลี่ยนกลยุทธทั้งการเลือกตั้งและการบริหารจัดการ แต่ประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนวิธีคิดวิธีทำงาน เราจึงสู้ไม่ได้มากขึ้น ๆ

            อีกปัญหาคือเวลา สื่อ, นักวิชาการ หรือองค์กรใด ๆ วิจารณ์ พรรคก็จะตอบโต้ทันที และสรุปว่า "นั่นคือพวกทักษิณ" ทำให้เสียแนวร่วมไปมาก ปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือ การที่พรรคของเราถูกมองว่าอิงแอบเผด็จการ และปล่อยปละละเลยให้มีการคอร์รัปชั่นอย่างมากตอนเป็นรัฐบาล นอกจากนั้น เราก็ไม่ได้ปฏิรูปโครงสร้างและระบบมานานมากแล้ว เรามีสาขาพรรคเกือบ 200 สาขาแต่เราก็ไม่ได้ส่งเสริมพัฒนาเท่าที่ควร เพราะพรรคการเมืองไม่ได้มีหน้าที่เพียงการชนะเลือกตั้งให้ได้ ส.ส.เท่านั้น แต่ต้องขยายและพัฒนาสาขา เพื่อเป็นกลไกดูแลประชาชนด้วย

            ประชาธิปัตย์มีจุดอ่อนที่ได้กล่าวมาบ้างแล้ว และมีจุดแข็งคือความเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ ไม่มีคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ เราพูดเรื่องการปฏิรูปพรรคมากว่าปี และมีความพยายามอย่างมากของคณะกรรมการบริหารในการปฏิรูป แต่ดูเหมือนการปฏิบัติเกิดขึ้นน้อยมาก กว่า 1 ปีที่ทดลองปฏิรูป ประชาธิปัตย์ภาคกลางด้วยกลยุทธ์ "ติดอาวุธความคิด ใกล้ชิดมวลชน เปิดพรรคกว้าง สร้างเครือข่าย ขยายฐานพรรค"

            การนำร่องปฏิรูปภาคกลางภายใต้ 15 ยุทธศาสตร์ 4 ปีของเลขาฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน และวิสัยทัศน์ 10 ฐานรากประเทศไทยของหัวหน้าพรรคเริ่มเห็นผล เรามุ่งฟื้นฟูอุดมการณ์พัฒนาศักยภาพสาขาและสมาชิก ด้วยการเพิ่มพูนความรู้และความสามารถในการบริหารเพื่อให้ "คิดเก่งทำเก่ง" เราเปิดพรรคกว้างด้วยการสัมมนาออกแบบประเทศไทย ออกแบบจังหวัด โดยมีภาคเอกชนภาควิชาการภาคประชาชน และท้องถิ่นมาร่วมเดือนละครั้ง เราเปิดพรรคกว้างให้ผู้สนใจมาร่วมงานกับพรรค ด้วยวิธีสรรหาผู้สมัครแบบใหม่ที่เรียกว่า ระบบไพรมารี่ที่อยุธยาวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ พรรคได้ตั้ง "สถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย" มี "ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ" อดีตเลขาฯ อาเซียนเป็นประธานเป็น "ศูนย์ศึกษาและพัฒนานโยบาย"

            การปฏิรูปประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคเก่าแก่ มีวัฒนธรรมองค์กรยาวนาน และมีบุคคลากรหลายรุ่นหลากหลายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องทำให้สำเร็จ ผมเรียกการปฏิรูปนี้ว่า "ความฝันของประชาธิปัตย์" หรือ Democrat Dream ด้วยการทำงานเชิงคุณภาพและสร้างสรรค์เป็นความหวังของชาติ การปฏิรูปประชาธิปัตย์จะเกิดประโยชน์ต่อการปฏิรูปการเมือง และการปฏิรูปประเทศ หาก 2 พรรคใหญ่ปฏิรูปตัวเองแข่งคุณภาพ "คิดเก่งทำเก่ง"

            พรรคแรงงานของอังกฤษแพ้พรรคอนุรักษ์นิยมติดต่อกัน 12 ปี นายโทนี่ แบลร์ นำการปฏิรูปสร้าง "นิว เลเบอร์" กลับมาชนะได้สำเร็จ เมื่อเดือนที่แล้ว พรรครีพับริกันของสหรัฐประกาศแผนปฏิรูปพรรค (The Growth and Opportunity Plan 2013) หลังแพ้เดโมแครต 2 สมัย การปฏิรูปพรรคการเมืองในอังกฤษและอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ควรศึกษาเป็นแนวทาง ผมเชื่อว่าประชาชนยังให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ของเราครับ"




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อลงกรณ์ ร่ายยาว ประชาธิปัตย์ ถึงเวลาต้องปฏิรูป! โพสต์เมื่อ 14 เมษายน 2556 เวลา 13:10:59 11,598 อ่าน
TOP