เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
น้องชาย ผบก.ตชด. ภาค 2 ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชายโดนตำรวจอัดน่วม ขณะจับเมาแล้วขับ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้าง ผู้เสียหายหกล้มจนเป็นแผลเอง
วันนี้ (15 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิน ไทยยิ่ง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ต.ต.โชติ ไทยยิ่ง ผบก.ตชด. ภาค 2 ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีที่นายฐปนา ไทยยิ่ง อายุ 25 ปี ลูกชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าจับกุมกรณีเมาแล้วขับ เมื่อวัีนที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา
โดย นายฐปนา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวันที่ 12 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้น ตน ได้ขับรถยนต์ออกไปหานายนรเศรษฐ ไทยยิ่ง หรือ เบส พี่ชายซึ่งเป็นลูกชายของ พล.ต.ต.โชติ ที่ร้านอาหารชิดลม ริมคลองชลประทาน เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. พอไปถึงร้านอาหารชิดลม ก็ไม่พบตัว นายนรเศรษฐ จึงได้เดินทางออกจากร้าน เพื่อไปรับเพื่อนอีกคนที่ร้านตะวันแดงก่อน แต่พอมาถึงแยก สนง. กกต. สุรินทร์ หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเก่านั้น ตนมองเห็นว่ามีการตั้งด่านตรว จึงเปลี่ยนใจเลี้ยวรถเข้าซอยใกล้สำนักงานธนาคารออมสิน สาขาย่อยหน้าวัดหนองบัว เพื่อกลับบ้าน
แต่ปรากฏว่า ในระหว่างนั้น นายนรเศรษฐ ได้โทรศัพท์มาโดยขอให้ตนไปหาที่บ้านชุนชนหมอกวล เมื่อตนขับรถย้อนกลับไป ก็สังเกตเห็นว่า ด้านหลังมีรถยนต์เปิดสัญญาณไฟกระพริบวิ่งตามมาห่าง ๆ ก่อนที่รถจักรยานยนต์สายตรวจ 191 จะวิ่งมาจอดขวางหน้ารถยนต์ของตนเอง หลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายเดินลงมายังรถยนต์ของตน โดยมีนายหนึ่งได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาด้วย ส่วนตำรวจอีกนาย ก็ได้เข้ามาจับกุมตัวของตนเอง ด้วยการจับมือไขว้หลัง พร้อมกดตัวให้หมอบลงที่พื้น ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ต่อสู้ขันขืนแต่อย่างใด แต่กลับโดนตำรวจเตะที่ใบหน้าอย่างแรง เป็นเหตุให้เบ้าตาขวาฟกช้ำ จมูกเลือดกำเดาไหล หลังจากที่ตนถูกจับกุมตัว และโดนทำร้ายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนไปเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 3 ครั้ง โดยวัดได้ 103 พร้อมตั้งข้อหาขับรถยนต์หวาดเสียว และขับรถยนต์ขณะเมาสุรา
อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พ.ต.ท.คำนวณ บ่ายกระโทก รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ออกมาชี้แจงว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจรได้รายงานเข้ามาว่า ผู้เสียหายขับรถยนต์หลบหนีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ เมื่อเจ้าหน้าที่ออกติดตามจนสามารถเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ในระหว่างนั้นผู้เสียหายได้พยายามขัดขืนการจับกุม จึงเชื่อว่าระหว่งที่เจ้าหน้าที่พยายามจับใส่กุญแจมือ ผู้เสียหายอาจหกล้มจนเป็นบาดแผลอย่างที่เป็นข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
