ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ผู้ใหญ่บ้านโนนสะอาด จ.สกลนคร เข้าแจ้งความหลังถูกแก๊งค้าไม้ ลอบตัดต้นไม้พะยูงต้นใหญ่อายุนับ 100 ปี เชื่อเป็นกลุ่มคนมีสีในพื้นที่ทำตามใบสั่งนายทุนค้าไม้ที่อยู่นอกประเทศ
วันนี้ (26 เมษายน) ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายสีตาล อองโนนาง ผู้ใหญ่บ้านโนนสะอาด หมู่ 1 ต.โนนสะอาด อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร นำคณะผู้สื่อข่าว และชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปยังจุดที่คนร้ายลักลอบตัดโค่นล้มไม้พะยูงในแปลงนาของตนเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่มีชาวบ้านพบเห็นก่อนจึงหลบหนีไป เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบไม้พะยูงลำต้นขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นล้มและตัดเป็นท่อนยาว 2.80 เมตร 1 ท่อน รอบโคนต้นวัดได้ 2.70 เมตร หรือเท่ากับ 2 คนโอบ เส้นผ่าศูนย์กลางยาว 90 เซนติเมตร ส่วนแกนกลางของลำต้นเป็นโพรง กิ่งก้านลำต้นวัดรอบได้ 1 เมตร คาดกลุ่มคนร้ายมากันหลายคนโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ช่วยกันตัดต้นพะยูงจนโค่นล้ม
โดยนายสีตาล เผยว่า รู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียต้นไม้พะยูงที่หวงแหนและดูแลรักษามาตลอดทั้งชีวิต ต้นไม้พะยูงต้นนี้มีอายุนับ 100 ปี หรืออาจมากกว่านั้น เพราะเป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่ปู่ย่า ตายาย จนถึงปัจจุบัน และสังเกตได้ชัดว่าบริเวณภายในพื้นที่ตนเพียงแห่งเดียวยังคงมีป่าไม้ขนาดใหญ่เหลืออยู่ โดยเฉพาะไม้พะยูง นอกนั้นโดยรอบพื้นที่มีนายทุนกว้านซื้อที่ดินแผ้วถางป่าปลูกยางพารา ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้แก๊งค้าไม้พะยูงลักลอบเข้ามาตัดในช่วงเวลากลางคืน เพื่อนำไปขายแก่นายทุนเพราะมีราคาสูงเป็นที่ต้องการของนายทุนต่างประเทศ และตนเชื่อว่าอาจจะเป็นกลุ่มคนมีสีในพื้นที่ที่ได้รับใบสั่งจากนายทุน ลำพังเพียงชาวบ้านหรือบุคคลทั่วไปคงไม่กล้าคิดทำ
นายสีตาล กล่าวต่อว่า หากประเมินมูลค่าราคาไม้พะยูงต้นนี้คงเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดกันมาและตนหวงแหนมาโดยตลอด และเคยมีพ่อค้าไม้หลายรายมาขอซื้อเสนอราคาสูงแต่ตนปฏิเสธไม่ขาย เพราะจะอนุรักษ์รักษาดูแลไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม และอีกต่อไปในอนาคตเชื่อว่าต้นไม้พะยูงที่มีขนาดใหญ่เท่านี้ ยิ่งนับวันจะหาดูได้ยาก ซึ่งหลังจากที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานพร้อมมีพยานรู้เห็น จึงได้ไปเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านม่วง เพื่ออนุญาตขนย้ายไม้พะยูง (หวงห้าม) ออกจากที่นาตนเองนำไปเก็บไว้ที่บ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านหลายหมู่บ้านเผยว่า ขณะนี้มีนายทุนเข้ามากว้านซื้อไม้พะยูงในพื้นที่จำนวนมาก โดยร่วมกับคนมีสีบางคน โดยให้ชาวบ้านออกสำรวจตามท้องไร่ท้องนา และชี้เป้าให้ ก็จะได้เงินใช้ต้นละ 3 พันบาท เพียงบอกว่าต้นพะยูงดังกล่าวอยู่ที่ใด หลังจากนั้นกลุ่มนายทุนร่วมกับคนมีสีก็จะเข้าลักลอบตัด และชักลากออกไป โดยไม่สนใจเจ้าของไม้ ซึ่งบางราย ไปแจ้งความก็ยังถูกมองว่าเป็นการแจ้งความเท็จ ขณะนี้ หลายท้องที่กำลังพบปัญหาการถูกข่มขู่ จากแก๊งดังกล่าว..อยากให้ทางการหรือผู้มีอำนาจลงมาดูแลชาวบ้านด้วยเพราะตอนนี้มีการคุกคามกันมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
