เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผบ.เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เล็งเพิ่มโทษจำคุกอีก 1-2 ปี แก่ นช. พกโทรศัพท์มือถือ ซ้ำยังถ่ายรูปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ฐานมีสิ่งของต้องห้าม
จากกรณีที่มี นักโทษชาย (นช.) ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพตัวเองขณะมีโซ่ตรวนพันธนาการอยู่ภายในเรือนจำ ก่อนโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เป็นนักโทษในเรือนจำ จ.พิษณุโลก กระทั่งภาพดังกล่าวถูกแชร์และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ต่อมา นายพงษ์มิตร ประเสริฐสกุล ผบ.เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งสอบสวนเรื่องดังกล่าว จนทราบว่า เป็นภาพของ นช.มาวิน สมพันธ์วงษ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องขังแดน 5 ในคดีข่มขืนกระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตน ศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2551 และกำลังจะพ้นโทษในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า ล่าสุด เมื่อวานนี้ (28 เมษายน) มีรายงานว่า นายพงษ์มิตร ได้นำกำลังผู้คุมจำนวน 30 นาย เข้าตรวจค้นเรือนนอนผู้ต้องขังในแดน 5 แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วน นช.มาวิน ตัวต้นเรื่อง ได้สั่งสอบสวนและแยกขัง เบื้องต้น นช.มาวิน อ้างว่าเป็นภาพที่เพื่อนถ่ายให้ และโทรศัพท์เป็นของคนอื่น อย่างไรก็ตาม นักโทษชายคนดังกล่าวต้องถูกแยกขัง และจะเพิ่มโทษอีก 1-2 ปี ในข้อหามีสิ่งของต้องห้าม
นายพงษ์มิตร กล่าวอีกว่า นช.มาวิน ไม่ยอมสารภาพว่านำโทรศัพท์ไปซุกซ่อนที่ไหน บอกเพียงว่า เป็นโทรศัพท์ของคนอื่น ซึ่งนับจากวันนี้จะต้องคุมเข้มและมีการจู่โจมไม่ให้ผู้ต้องขังรู้ตัว แต่สถานการณ์ที่เรือนจำพิษณุโลกไม่รุนแรงเหมือนเรือนจำนครศรีธรรมราช ทว่า ที่ผ่านมาก็สามารถตรวจค้นยึดยาบ้าและยาไอซ์ได้ ส่วนกรณีโทรศัพท์มือถือเพิ่งจะพบในคราวนี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ ผบ.เรือนจำ ตรวจค้นอยู่นั้น ได้รับรายงานว่า มีผู้ต้องสงสัยนำสิ่งของมาทิ้งไว้บริเวณใกล้หน้าบ้านพักผู้บัญชาการด้านนอกเรือนจำ เมื่อไปตรวจสอบพบห่อกระดาษพันด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนา จึงประสานไปยัง ร.ต.อ.อำนาจ ดารา รองสวป.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจยึดสิ่งของดังกล่าว และเมื่อแกะห่อออกมา พบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ชาร์จแบตเตอรี่ 4 อัน แบตเตอรี่สำรอง 5 ก้อน และหูฟัง 5 ชุด คาดว่า คนร้ายน่าจะนำสิ่งของดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ และจะย้อนกลับมาขว้างข้ามกำแพงเรือนจำในเวลากลางคืน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
