x close

DSI แจ้งข้อหาเพิ่ม สุขุมพันธุ์ และคณะ คดีต่อสัญญาบีทีเอส




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         สุขุมพันธุ์ พร้อมคณะเดินทางรับทราบข้อหากล่าวที่ดีเอสไอ ในคดีต่อสัญญาบีทีเอส บอกต้องมารับทราบข้อกล่าวหาใดอีก เสียเวลาทำงานเปล่า ๆ ชี้มีประเด็นการเมืองเอี่ยวแน่

         วันนี้ (2 พฤษภาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะอดีต ผอ.กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง ,นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันประกอบกิจการการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค กิจการรถราง โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่ผู้บริหาร กทม. ต่ออายุสัญญาสัมปทานเดิมอีก 30 ปี และการขยายเส้นทางสัมปทานใหม่ 2 สายคือ สายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ และสายสุขุมวิท สถานีบางจาก-แบริ่ง 

         โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมารับทราบข้อกล่าวหาใดเพิ่มเติมอีก และมองว่าเป็นการเสียเวลาทำงานมากกว่า ขณะที่ นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่า กทม. กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่ทางดีเอสไอแจ้งเพิ่มเติมในวันนี้ก็เป็นเรื่องเดิม ๆ เกี่ยวกับการต่ออายุสัมปทาน แต่การไปขยายความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ รอบใหม่นี้น่าจะมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราก็สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นที่ดีเอสไอสงสัยแน่นอน

         ด้าน พ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวเพิ่ม เนื่องจากพนักงานสอบสวนพบว่ามีการดำเนินการต่อสัญญาและขยายเส้นทาง ในลักษณะเดียวกันอีก 2 เส้นทาง ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในข้อกล่าวนี้ ประกอบด้วยผู้ถูกกล่าวหากลุ่มเดิมและรายใหม่เพิ่มเติม จากการสอบปากคำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ให้การปฏิเสธ พร้อมทั้งระบุในคำให้การว่า พนักงานสอบสวนกลั่นแกล้งและจะฟ้องร้องพนักงานสอบสวน ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

         พ.ต.ท.ถวัล กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวเป็นความเห็นต่างในข้อกฎหมายระหว่างพนักงานสอบสวนกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งหากถามความเห็นส่วนตัวแล้ว ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อข้อกฎหมายชัดเจน แต่ทางผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้เห็นพ้องกับพนักงานสอบสวนจึงให้การปฏิเสธ ก็เป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง  ดังนั้นก็ต้องส่งเรื่องให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยตัดสิน สำหรับคดีนี้ยังเหลือผู้ถูกกล่าวหาอีก 2  ราย ที่จะเดินทางมารับทราบข้อหาในวันพรุ่งนี้ (3 พฤษภาคม) คือ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
DSI แจ้งข้อหาเพิ่ม สุขุมพันธุ์ และคณะ คดีต่อสัญญาบีทีเอส โพสต์เมื่อ 2 พฤษภาคม 2556 เวลา 14:49:57
TOP