โค้ชแต๊ก เซ็นสัญญา บางกอกกล๊าส เอฟซี ขึ้นกุมบังเหียนทัพกระต่ายแก้ว ถิ่นลีโอ สเตเดียม ด้วยระยะเวลา 2 ปีครึ่ง มั่นใจพาทีมสู่เข้าดวลถ้วยเอเชียได้อย่างแน่นอน ขณะที่นักเตะทีมปราสาทสายฟ้ายอมรับ เคยคุยเรื่องการเปลี่ยนโค้ชจริง
หลังจากที่ โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม อดีตเฮดโค้ช บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพิ่งจะโบกมือแยกทางกับทีมปราสาทสายฟ้า หลังทีมผ่านเข้ารอบ 2 เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก เนื่องจากวิสัยทัศน์ไม่ตรงกับ นาย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ที่ระบุว่ามีนักเตะของทีมเข้ามาขอให้เปลี่ยนโค้ชไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งนั้น ล่าสุดวานนี้ (3 พฤษภาคม) ทีมกระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส เอฟซี ก็ได้ประกาศแต่งตั้ง โค้ชแต๊ก เข้าเป็นกุนซือใหญ่คุมทีมในถิ่นลีโอ สเตเดียม อย่างเป็นทางการ ด้วยระยะเวลา 2 ปีครึ่ง พร้อมขยับ โค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด เป็นผู้ช่วยเฮดโค้ชด้วย
โดยโค้ชแต๊ก เผยอย่างชื่นมื่นในงานแถลงข่าวว่า มีความสุขที่ได้รับโอกาสจากบางกอกกล๊าส พร้อมลั่นปรับปรุงระบบทีมภายใน 2 สัปดาห์ มั่นใจสามารถพาทีมไปตะลุยแข้งในเวทีเอเชียได้อย่างแน่นอน โดยจะประเดิมคุมทีมนัดแรกบุกไปเยือนฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ในศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
สำหรับ โค้ชแต๊ก นั้นเป็นเฮดโค้ชที่เคยสร้างผลงาน พาทีม บีอีซี เทโรศาสน คว้ารองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปียนสลีก และยังคุมทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกมาแล้วอีกด้วย
ขณะที่ เจ้าอุ้ม ธีรทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายตัวเก่งปราสาทสายฟ้า ได้ออกมายอมรับว่า เป็น 1 ในนักเตะชุดนี้ที่เคยเข้าไปคุยกับประธานสโมสร เรื่องการขอเปลี่ยนโค้ชคนใหม่ เพราะที่ผ่านมา นักเตะในทีมก็รู้ว่าประธานสโมสรเป็นคนจัดตัวผู้เล่นลงสนามพร้อมกับวางแท็กติกการเล่นเองเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่โค้ชแต๊กกลับไม่เคยปรึกษานักเตะเลย ซึ่งนักเตะต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น ออสมาร์ อิบาเนซ หรือแม้กระทั่ง 2 แฟรงก์ โอฮันด์ซ่า และ อาเชียมปง ก็ยังเคยเข้ามคุยกันว่าการทำงานของโค้ชไม่ค่อยดี
และในตลอดเวลาที่ผ่านมาประธานสโมสรก็ได้ขอให้นักเตะทุกคนในทีมพยายามปรับตัวให้เข้ากับโค้ช แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมานานและสะสมมานานหลายครั้งแล้ว ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้แฟนบอลเข้าใจว่าทุก ๆ สิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง และไม่อยากให้มองว่าประธานสโมสรเขี่ยโค้ชทิ้งหลังทีมผ่านเข้ารอบ
ด้าน ประทุม ชูทอง ปราการหลังตัวเก่งกล่าวเช่นกันว่า ตัวเขาเองก็ไม่ชอบการทำทีมของโค้ชแต๊ก และเป็น 1 ในกลุ่มที่เคยเข้าไปหารือกับประธานสโมสรให้เปลี่ยนโค้ชคนใหม่เช่นกัน ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นอาจจะดูว่าใจร้ายเกินไป แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงเรื่องปัญหาภายในที่สะสมกันมานานและไม่อาจจะเปิดเผยได้ก่อนหน้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
