เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปลอดประสพ เตรียมทุ่มงบ 6-7 พันล้าน จ้างบริษัทที่ปรึกษาโครงการน้ำ สัญญาจ้าง 5 ปี วอนประชาชนอย่าแล้งน้ำใจเรื่องเวนคืนพื้นที่ แนะควรมีจิตสำนึกสาธารณะ
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษา ในการก่อสร้างโครงการน้ำว่า บริษัทที่ปรึกษาจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกจะทำหน้าที่ช่วยบริหารและตรวจกำกับแบบ จะใช้ 4 กลุ่มบริษัท และในบริษัทที่ 4 จะทำหน้าที่เกี่ยวกับคลังข้อมูลและจะเพิ่มหน้าที่คุมก่อสร้างและตรวจการจ้างด้วย ซึ่งจะดำเนินการภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะเปิดประมูล 2 ซอง คือ ด้านเทคนิคและราคา
สำหรับประเภทที่ 2 นายปลอดประสพ เผยว่า จะจัดจ้างเมื่อการก่อสร้างใกล้เข้ามา เพื่อมาทำหน้าที่คุมการก่อสร้าง และคอยให้คำแนะนำในเรื่องการตรวจรับ โดยในส่วนนี้ น่าจะมีประมาณ 20-30 บริษัทมาดำเนินการ และจะตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่เป็นนายช่างโครงการ คอยดูแลโครงการทั้งหมด
ในส่วนของงบประมาณ นายปลอดประสพ เผยว่า งบประมาณการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาทั้ง 2 ส่วน ในระยะเวลา 5 ปีนั้น จะแบ่งจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยประเภทแรกน่าจะอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 2-2.5 ของวงเงินโครงการ ส่วนที่ 2 น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2 โดยวงเงินทั้งหมดประมาณ 6-7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงแผนแม่บทลุ่มน้ำด้านตะวันออก ว่า ขณะนี้ ทาง กบอ. ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นหนึ่งชุดเพื่อทำแผนแม่บทน้ำภาคตะวันออก ทั้งนี้ เพราะภาคตะวันออกต้องมีการปรับปรุงเขื่อนที่แม่น้ำบางปะกง รวมไปถึงการบำบัดน้ำเสียจากเมืองท่องเที่ยว เช่น เมืองพัทยา เป็นต้น
ส่วนการเวนคืนพื้นที่สำหรับการก่อสร้างโครงการน้ำนั้น นายปลอดประสพ มีความเห็นว่า ไม่ต่างกับการเวนคืนทั่วไป เพราะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเวนคืน มีการจ่ายเงินให้กับประชาชนตามระเบียบที่มีอยู่ และประชาชนก็ต้องเข้าใจ ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ แต่ตนแปลกใจว่า เวนคืนที่ไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัดถนน สร้างสนามบิน กลับไม่มีเรื่อง แต่คราวตนบ้าง ทำไมถึงได้แล้งน้ำใจกันขนาดนี้
ถ้าถามว่าหากประชาชนไปร้องต่อศาลปกครองจะทำให้โครงการชะลอหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะโครงการนี้ออกเป็นกฎหมายแล้ว จะแย้งไม่ได้ หากจะแย้งต้องไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่าพระราชกฤษฎีกาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และโดยพื้นฐานก็แย้งไม่ได้เพราะพระราชกฤษฎีกาเวนคืนมีไปแล้วเป็นหมื่นฉบับ และนี่เป็นพระราชกฤษฎีกาเวนคืนสำหรับโครงการสาธารณะด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
