เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อภิสิทธิ์ ซัด รัฐบาลจัดงบปี 57 ทำรวยกระจุก จนกระจาย เน้นประชานิยม เอาเงินให้ประชาชนกู้สารพัดกองทุนที่เป็นการสร้างหนี้ ชี้ บอกว่าลดการขาดดุลได้ ที่แท้ไปผลักภาระให้ประชาชน ด้วยการขึ้นน้ำมันดีเซล-แก๊สหุงต้ม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 วาระ 1 วันนี้ (29 พฤษภาคม 2556) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นอภิปรายถึงสาเหตุที่ฝ่ายค้านไม่อาจรับหลักการร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ เพราะเห็นว่าหลักคิดของรัฐบาลนั้นผิด
โดย นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่นายกฯ เสนองบประมาณต่อสภาฯ และปีนี้ก็ไม่มีภาระปัญหาปฏิทินงบประมาณ ไม่มีปัญหาภัยพิบัติที่ต้องจัดสรรไปใช้ ดังนั้น งบประมาณในปีนี้รัฐบาลควรจะนำไปใช้ขับเคลื่อนประเทศ แต่กลับพบว่ารัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบเพื่อรองรับโครงสร้างประชาชนและอนาคตของประเทศ งบประมาณที่จัดครั้งนี้ ไม่สะท้อนการมีทิศทางพัฒนาที่ชัดเจน และเป็นการจัดงบประมาณที่ไม่รับผิดชอบต่ออนาคตของประเทศ และปัญหาพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น เรื่องประชาคมอาเซียน ปัญหาเหลื่อมล้ำในรายได้และทรัพย์สิน ปัญหาสังคมอายุ
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า การบริหารเศรษฐกิจในหลักคิดของรัฐบาลทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ซ้ำเติมคนจน เพราะใช้หลักคิดเดิม ๆ ในการจัดงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่ติดใจในเรื่องการจัดงบประมาณที่ยังขาดดุลงบประมาณ เพราะยังจำเป็นต้องใช้งบประมาณช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ที่บอกว่าขาดดุลลดลง 5 หมื่นล้านบาท ขอให้ลองไปดูว่าที่รัฐบาลโฆษณาว่าขาดดุลลดลงได้ในปีนี้นั้น ทำได้ด้วยการหาภาระซ้ำเติมพี่น้องประชาชน อย่างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ก็ช่วยให้รัฐบาลลดการขาดดุลไปได้ 3 หมื่นล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า สิ่งนี้สวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลเคยแถลงและนายกฯ เคยหาเสียงเอาไว้ 2 ปีที่ผ่านมาข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน ที่นายกฯ เคยประกาศจะกระชากค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน และยกเลิกกองทุนน้ำมันนั้น ปรากฏว่าของขวัญที่ประชาชนจะได้รับจากรัฐบาลสิ่งแรก คือ จัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เมื่อราคาน้ำมันดีเซลขึ้น สิ่งที่ตามมาคือผู้ประกอบการด้านการขนส่งก็ขอขึ้นราคา รัฐบาลก็ต้องยอม ทำให้ต้นทุนข้าวของแพงขึ้นตามไปด้วย
ส่วนของขวัญชิ้นที่ 2 ที่รัฐบาลจะให้ประชาชนนั้น นายอภิสิทธิ์ ชี้ว่า คือการเตรียมขึ้นราคาแก๊สหุงต้มในครัวเรือน ที่จะขึ้นให้เท่ากับภาคขนส่ง เมื่อเท่ากันแล้วก็จะปรับต่อให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการขึ้นราคาแก๊สหุงต้มนี่เองจะช่วยให้รัฐบาลลดการขาดดุลได้หลายหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ตนเองมองว่าประชาชนที่ใช้แก๊สหุงต้มในครัวเรือนควรได้ใช้ในราคาต้นทุน ไม่จำเป็นต้องใช้ในราคาที่ขายให้คนอื่น เพราะพี่น้องประชาชนไม่ได้ใช้แก๊สในปริมาณที่มากไปกว่าที่เราเอามาจากทรัพยากรของเรา
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุปว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเห็นแล้วว่าหลักคิดในการจัดทำงบประมาณยังเหมือนเดิม คือเอาเงินไปให้ประชาชนกู้สารพัดกองทุน กู้แล้วก็เป็นหนี้ อีกทั้งยังเน้นการลงทุนขนาดใหญ่ และยังพบว่ามีนโยบายประชานิยมเข้าไปแทรกแซงในลักษณะฝืนตลาด ทั้งจำนำข้าว ค่าแรง สุดท้ายเศรษฐกิจไม่ได้โตยั่งยืน เป็นลักษณะรวยกระจุก จนกระจาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
