นายถวิล เปลี่ยนศรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
ถวิล เปลี่ยนศรี ขอบคุณศาลให้ความเป็นธรรม หลังเพิกถอนคำสั่งนายกฯ โยกพ้นเลขา สมช. เพราะมิชอบด้วยกฎหมาย ย้ำทำงานร่วมกับรัฐบาลได้
วันนี้ (31 พฤษภาคม 2556) ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ สำนักนายกรัฐมนตรี ฟ้องให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
โดยก่อนหน้านี้ นายถวิล ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จึงยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แจ้งให้ยกคำร้องทุกข์ เนื่องจากทำให้ได้รับความเสียหาย และได้นำเรื่องมาฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางได้พิจารณาดูแล้ว จึงสั่งให้ยกเลิกคำสั่งย้ายนายถวิลไปเป็นที่ปรึกษาที่สำนักนายกฯ กลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. โดยเร็ว เนื่องจากเห็นว่า การรับโอนเป็นไปอย่างเร่งรีบ และไม่ชอบด้วยจริยธรรม อีกทั้งนายถวิลเป็นผู้มีความรู้ความสามารถงานด้านความมั่นคง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมากกว่า และสามารถเป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่งอยู่แล้ว
ด้าน นายถวิล กล่าวภายหลังฟังคำตัดสินของศาลปกครองกลางว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม แต่ตนก็ยังดีใจได้ไม่เต็มที่ เพราะยังมีข้าราชการอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากให้ข้าราชการอื่น ๆ ได้รับความเป็นธรรมตรงนี้ด้วย และลุกขึ้นมาต่อสู้ แต่การที่ตนมายืนตรงนี้ได้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก
อย่างไรก็ตาม นายถวิล ระบุว่า เรื่องการพิจารณาครั้งนี้ยังอยู่ในระดับศาลปกครองกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะอุทธรณ์ประเด็นนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดก็ได้ แต่หากไม่อุทธรณ์ก็ถือว่าคดีถึงที่สุด ก็ต้องไปดำเนินการเพิกถอนคำสั่ง ๆ ต่าง ซึ่งตนก็ต้องรอดูนายกรัฐมนตรีก่อน
นอกจากนี้ นายถวิล ยังยืนยันว่าตนเองสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ เพราะเป็นข้าราชการมืออาชีพที่ต้องทำให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ได้ทำงานให้กับหัวหน้าพรรคการเมือง แม้ส่วนตัวจะมีอุดมการณ์ทางการเมือง
ส่วนที่มีความกังวลว่า หากตนกลับมารับตำแหน่งแทน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. คนปัจจุบัน จะส่งผลกระทบต่อการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่นั้น ขอยังไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะยังไกลไป แต่ระบบราชการสามารถทำงานต่อกันได้
ประวัติ ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
นายถวิล เปลี่ยนศรี ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2518) ปริญญาโทจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ. 2523) และจบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี 2525
นอกจากนี้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ยังเคยเข้าฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ มากมาย ทั้งหลักสูตร Senior Executive Course ของ APCSS, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 46, หลักสูตรนักบริหารระดับสูง (นบส.) รุ่นที่ 38 สำนักงาน ก.พ., หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) หลักสูตรหลักประจำชุดที่ 45, หลักสูตรหนังสือพิมพ์สัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ และหลักสูตรรักษาความปลอดภัยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ในส่วนของหน้าที่การงานนั้น นายถวิล เปลี่ยนศรี ถือว่าเป็นลูกหม้อของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยแท้ เพราะชีวิตการทำงานอยู่ใน สมช. มาโดยตลอด โดยเข้ารับราชการครั้งแรกในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล 3 ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อนจะได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการกองความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ, ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 9 บส), ที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช)
จากนั้น หน้าที่การงานของ นายถวิล ก็ยังได้ขยับขยายขึ้นตามลำดับ โดยได้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แทน พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ที่ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำเช่นกัน และต่อมา นายถวิล ก็ยังได้เป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงเกิดเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553
กระทั่งในเวลาต่อมาการเมืองเปลี่ยนขั้ว คณะรัฐมนตรีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 จึงได้มีมติให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. และไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 แทน นายถวิลจึงยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพราะเห็นว่าการโยกย้ายดังกล่าวไม่เป็นธรรม และในที่สุดศาลปกครองกลางก็มีคำสั่งให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว และให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมโดยเร็วที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
