x close

ดีเอสไอ ไฟเขียว รับคดีไฟไหม้รถหรูเป็นคดีพิเศษ


คดีไฟไหม้รถหรู ดีเอสไอพบเลขตัวถังตรงบัญชีดำเลี่ยงภาษี

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติ รับคดีไฟไหม้รถหรู เข้าเป็นคดีพิเศษแล้ว หลังพบว่ามีการเลี่ยงภาษีนำเข้า

          วันนี้ (3 มิถุนายน 2556) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ เปิดเผยว่า ตนได้อนุมัติให้คดีรถหรูที่ถูกไฟไหม้ เป็นคดีพิเศษแล้ว และพร้อมประสานงานเพื่อรับมอบคดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาดำเนินการต่อ โดยมีเป้าหมายการสืบสวนคือ รถหรู 19 คันที่จดทะเบียนออกไปแล้ว ใน จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งรถหรูที่ถูกเพลิงไหม้ 6 คัน ว่ามีการเลี่ยงภาษีหรือไม่ แต่ทางดีเอสไอเชื่อว่า น่าจะมีการหลบเลี่ยงภาษีเช่นกัน ขณะที่รถแลมบอร์กินีที่ถูกไฟไหม้นั้น น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 18 คน

          นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวอีกว่า การทำคดีรถหรู ไม่ได้เป็นการแย่งงานจากตำรวจแต่อย่างใด พร้อมกันนั้น ก็จะตรวจสอบรถที่จดทะเบียนออกไป 5,832 คันอีกด้วย ซึ่งถ้าหากพบว่ารถของใครเป็นรถที่หนีคดี เจ้าของรถจะถูกจับกุม แต่เจ้าของสามารถระงับคดีได้ หากยกรถคันนั้นเป็นของแผ่นดิน ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีลูกนักการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถหรู จากการสอบสวนพบว่า ยังไม่เกี่ยวข้อง แต่จากการข่าวพบว่า มีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เพราะว่าการซื้อขายรถหรู จะทำได้เฉพาะนักการเมืองหรือผู้มีฐานะเท่านั้น ขณะที่ความผิดในกรณีนี้ ผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ข้อหาหลบเลี่ยงภาษี ระวางโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าของภาษีรถ ส่วนคนที่ซื้อรถก็มีความผิดเช่นกัน ฐานซื้อรถผิดกฎหมาย

          ล่าสุด เวลาประมาณ 15.00 น. มีรายงานว่า นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมขนส่งทางบก (ขบ.) มีคำสั่งให้นายดนัย โคตรอาษา ขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ ย้ายเข้ามาช่วยราชการแล้ว หลังมีข่าวฉาวเรื่องการจดทะเบียนรถหรู ส่อแววทุจริต พร้อมกันนี้ทาง ขบ. ได้สั่งตรวจสอบการจดทะเบียนรถหรูย้อนหลัง 2 ปี หากพบว่ามีความผิดพร้อมดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาดอีกด้วย

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการจดทะเบียนรถหรูมากที่สุด มีดังนี้

          นนทบุรี 2,253 คัน
         
สระบุรี 1,048 คัน
         
กรุงเทพมหานคร 891 คัน
         
พระนครศรีอยุธยา 607 คัน
         
ปราจีนบุรี 290 คัน
         
นครปฐม 239 คัน
         
อ่างทอง 236 คัน
         
นครนายก 114 คัน
         
ชลบุรี 54 คัน
         
กาญจนบุรี 35 คัน
         
ราชบุรี 27 คัน 
         
ศรีษะเกษ 19 คัน
         
จันทบุรี 7 คัน
         
อุบลราชธานี 5 คัน
         
เชียงใหม่ 2 คัน
         
อุตรดิตถ์ 2 คัน
         
นครพนม พัทลุง สงขลา สุพรรณบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ 1 คัน


คดีไฟไหม้รถหรู ดีเอสไอพบเลขตัวถังตรงบัญชีดำเลี่ยงภาษี

           สืบเนื่องจากกรณี รถหรูไฟไหม้ 4 คัน จากทั้งหมด 6 คัน ซึ่งรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้เสียหายประกอบด้วย ยี่ห้อเฟอร์รารี่ แลมบอร์กินี เบนท์ลีย์ และบีเอ็มดับเบิลยู ขณะอยู่ในขั้นตอนการลำเลียงจากกรุงเทพฯ ไป จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 โดย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าตรวจสอบรถที่ได้รับความเสียหาย พร้อมกับขอรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อตรวจสอบว่ารถเหล่านี้นำเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตามที่รายงานข่าวไปนั้น

           ล่าสุด วานนี้ (2 มิถุนายน 2556) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ รถแลมบอร์กินี รุ่นกัลลาร์โด สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ถ-3278 กทม. ที่มีการนำแผ่นอะลูมิเนียมตอกหมายเลขตัวรถใหม่มาปิดทับของเดิม โดยหมายเลขตัวรถใหม่คือ ZHWGE 12 T 98 LA 06056 ส่วนหมายเลขตัวรถเดิมที่ติดมากับรถคือ ZHWBE 37 S 07 LA 02560 ซึ่งหมายเลขของตัวรถเดิมเลขนี้ ตรงกับบัญชีรถเลี่ยงภาษีที่ดีเอสไอตรวจสอบได้ก่อนหน้านี้

           ทั้งนี้ จะรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจาก พฐ. อีกครั้ง เพื่อเสนอข้อเท็จจริงให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ศุลกากร เนื่องจากรถเหล่านี้เป็นรถหรูที่นำเข้ามาทั้งคันแต่เลี่ยงภาษีด้วยการแจ้งว่าเป็นนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบเป็นรถจดประกอบ ซึ่งจะทำให้เสียภาษีต่ำกว่าการนำเข้าทั้งคันประมาณ 200 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อเท็จจริงพบว่ารถเหล่านี้เป็นรถราคาแพง มีเทคนิคในการประกอบชั้นสูงไม่สามารถแกะชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบได้แน่นอน ซึ่งดีเอสไอมีบัญชีรถจดประกอบและรถเลี่ยงภาษีนำเข้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และในวันนี้ (3 มิถุนายน) จะนำเสนอข้อมูลให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณานำเข้าที่ประชุมคดีพิเศษในลักษณะของปัญหาทั้งระบบ โดยใช้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่าง

           พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น ทราบตัวเจ้าของรถทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร ต้องรอให้รับเป็นคดีพิเศษก่อน โดยจะเสนอให้รวบเป็นคดีเดียวกันทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการสืบสวนสอบสวน

           สำหรับผู้ที่อยู่ในส่วนที่ต้องเรียกมาสอบสวนในคดีนี้ นอกจากเจ้าของรถแล้ว ที่ทราบว่ารู้ตัวและหลบหนีไปแล้ว ก็จะมีขนส่งจังหวัดศรีสะเกษ ที่รับจดแจ้งทะเบียน ว่าที่ผ่านมาจดแจ้งไปแล้วกี่คัน หรือผู้ที่ทำการขนส่งรถยนต์ดังกล่าว และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดีเอสไอ ไฟเขียว รับคดีไฟไหม้รถหรูเป็นคดีพิเศษ โพสต์เมื่อ 3 มิถุนายน 2556 เวลา 09:45:45 2,064 อ่าน
TOP