x close

เปิดใจทายาท บ้านเขียวขุนพิทักษ์ ใน คนอวดผี 5 มิถุนายน 2556


คนอวดผี บ้านเขียวขุนพิทักษ์ เปิดใจทายาท ขุนพิทักษ์บริหาร

คนอวดผี บ้านเขียวขุนพิทักษ์ เปิดใจทายาท ขุนพิทักษ์บริหาร


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนอวดผี โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            หลังจากที่ รายการคนอวดผี (29 พฤษภาคม 2556) ได้นำเสนอเรื่องราวของ น้องกุ้งนาง วัย 18 ปี ที่ล้มป่วยหนัก หลังกลับมาจากการไปพิสูจน์อาถรรพ์เฮี้ยนของ บ้านเขียว อยุธยา หรือ บ้านเขียวขุนพิทักษ์ บ้านร้างหลังใหญ่ ใน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี ริว จิตสัมผัส เตรียมพาคุณยายของน้องกุ้งนาง ไปทำพิธีขอขมา ขุนพิทักษ์บริหาร เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เพื่อความสบายใจของน้องกุ้งนางและครอบครัว ที่เชื่อว่าอาการป่วยของเธอ เกิดจากการไปลบหลู่ ขุนพิทักษ์บริหาร เข้านั่นเอง ..

            รายการคนอวดผี (6 มิถุนายน 2556) ซึ่งเป็นตอนจบของ อาถรรพ์บ้านเขียว จึงขอพาย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเวลาที่ "ขุนพิทักษ์บริหาร" ดำรงตำแหน่งเป็น นายแขวงเสนาใหญ่ หรือ นายอำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่ออุทิศให้กับ "บ้านเขียว" บ้านหลังใหญ่ที่เคยอบอุ่นหลังนี้ ก่อนที่ขุนพิทักษ์บริหารจะจบชีวิตลงภายในบ้าน และกลายเป็นที่ร่ำลือของชาวบ้านว่าท่านทั้งหวงและห่วงบ้านมากจนวนเวียนอยู่ข้างใน และไม่เคยจากไปไหนเลย

            คุณดนัย มิลินทวณิช และ คุณสุนิสา โลหเจริญวณิช สองทายาทของขุนพิทักษ์บริหาร ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลน บอกเล่าเรื่องราวความประทับใจในวัยเยาว์ว่าทั้งคู่เคยเล่นสนุกภายในบ้านเขียว เพราะเป็นบ้านหลังใหญ่ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ จึงทำให้เด็ก ๆ ชอบเป็นพิเศษ ส่วนที่มาของชื่อ "บ้านเขียว" เป็นเพราะขุนพิทักษ์บริหารเกิดวันพุธ จึงเชื่อว่า "สีเขียว" คือสีที่เป็นมงคล ซึ่งเรือที่ท่านมี ก็ตั้งชื่อว่า "เรือเขียว" เช่นเดียวกัน

คนอวดผี บ้านเขียวขุนพิทักษ์ เปิดใจทายาท ขุนพิทักษ์บริหาร

            ด้วยความที่เป็นนายอำเภอ ขุนพิทักษ์บริหาร จึงเป็นคนที่มีระเบียบวินัย อีกทั้งยังสนใจในพระพุทธศาสนา มีการสร้างพระพุทธรูป สร้างกุฏิให้วัด แม้กระทั่งยกหนี้ให้กับลูกหนี้ เพราะถึงแม้จะเป็นคนเจ้าระเบียบในด้านการทำงาน แต่ลึก ๆ แล้วท่านก็เป็นคนโอบอ้อมอารี

            บ้านเขียว นอกจากจะเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นของขุนพิทักษ์บริหารกับครอบครัวแล้ว ยังเคยมีโอกาสได้รับเสด็จรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้นด้วย อีกทั้งบ้านที่มีอายุกว่า 100 ปีหลังนี้ ยังเคยถูกใช้เป็นที่ว่าการอำเภอไปในตัวด้วย เรียกว่าบ้านเขียวหลังนี้ คือทุกสิ่งทุกอย่างของท่าน ทั้งครอบครัว ลูก หลาน เหลน และหน้าที่การงาน ท่านจึงรักและหวงแหนบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก

            เมื่ออายุได้ประมาณ 70 ปี ขุนพิทักษ์บริหาร ก็เกิดล้มป่วยด้วยโรคที่สมัยนั้นเรียกกันว่า "ผีฝักบัว" ท่านถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเข้ารับการรักษา โดยขุนพิทักษ์บริหารรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ 19 วัน ก็รู้ดีว่าอาการป่วยนั้นไม่สามารถเยียวยาให้ดีขึ้นได้อีกแล้ว ญาติ ๆ จึงพาท่านกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านเขียว เพื่อเก็บความทรงจำและไว้อาลัยในสิ่งที่ท่านรักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ขุนพิทักษ์บริหารจะสิ้นลมไปในบ้านหลังนั้นนั่นเอง

            ทั้งนี้ หนึ่งในสิ่งที่ทำให้บ้านเขียวกลายเป็นที่ร่ำลือถึงอาถรรพ์เฮี้ยน เพราะคนรุ่นหลังได้เห็นห่วงคล้องที่ติดอยู่กับพื้น ราวกับว่าเป็นห่วงล่ามข้าทาสบริวาร แต่ทายาทของขุนพิทักษ์บริหารชี้แจงว่า ห่วงดังกล่าวเป็นเพียงห่วงสำหรับล่ามกำปั่น (ตู้นิรภัย) เท่านั้น เนื่องจากสมัยนั้นมีการเลิกทาสไปแล้ว และยังไม่มีธนบัตรที่เป็นแบงก์ใช้ จึงต้องมีห่วงสำหรับล่ามตู้เก็บเงินเอาไว้เพื่อกันขโมย หาใช่อย่างที่เล่าลือกันไม่ แต่หากจะมีใครสักคนที่วนเวียนอยู่ภายในบ้าน ก็คงจะเป็นขุนพิทักษ์บริหาร ที่ยังคงผูกพันและหวงแหนบ้านหลังนี้ จนไม่อยากจากไปไหน ..

คนอวดผี บ้านเขียวขุนพิทักษ์ เปิดใจทายาท ขุนพิทักษ์บริหาร

            เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปขอขมา ขุนพิทักษ์บริหาร แม้ว่าน้องกุ้งนางจะอยากไปกราบขอขมาที่บ้านเขียวด้วยตัวเอง แต่น้องกุ้งนางก็ไม่สามารถพาเอาร่างกายที่ป่วยหนักไปขอขอมาเองได้ คุณยายจำปีจึงเป็นตัวแทนไปทำพิธีขอขมาแทนหลานสาวพร้อมกับ ริว จิตสัมผัส โดยเมื่อเข้าไปภายในบ้านเขียว จู่ ๆ ริว จิตสัมผัส ก็ตรงไปยังห้องหนึ่งภายในบ้านอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตรงไปยังกรอบรูปของขุนพิทักษ์บริหารเพื่อสื่อสารกับท่านในทันที โดยใจความที่ได้คือ ..

            "อย่าเอาเรือนกูเป็นที่ทำสิ่งอัปรีย์"
            "กูไม่ได้ทำร้ายใคร"
            "กูติดกรรมห่วงสมบัติ"

            ซึ่ง ริว จิตสัมผัส ก็ได้นำข้อความเหล่านี้ไปสอบถามและพูดคุยกับทายาทของขุนพิทักษ์บริหาร โดยทายาทเองก็เชื่อว่าคุณทวดของพวกเขายังคงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะยังห่วงสมบัติที่ทุ่มเทมาด้วยแรงกายแรงใจนั่นเอง ก่อนที่ริวจะพาคุณยายจำปี ไปทำพิธีขอขมาพร้อมพานบายศรี ส่วนหลังจากนี้อาการของน้องกุ้งนางจะดีขึ้นหรือไม่ ก็คงต้องเป็นกำลังใจให้น้องกุ้งนางและครอบครัวกันต่อไป ..





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดใจทายาท บ้านเขียวขุนพิทักษ์ ใน คนอวดผี 5 มิถุนายน 2556 โพสต์เมื่อ 6 มิถุนายน 2556 เวลา 13:12:14 34,618 อ่าน
TOP