เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ธาริต เรียก 2 เสี่ยขนรถหรูมอบตัว มิเช่นนั้นจะออกหมายจับ ระบุ มีหลักฐานมัดตัว หลังพบว่าโอนเงิน 10 ล้านบาทไปมาเลเซีย ขีดเส้นตายบริษัทรถตรวจสอบให้เสร็จใน 21 มิ.ย.นี้
วันนี้ (17 มิถุนายน 2556) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมกับหน่วยงานจากภาครัฐ 7 หน่วยงาน และภาคธุรกิจตัวแทนรถหรู 10 บริษัท ได้ร่วมตรวจสอบเอกสารรถหรูประกอบผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 548 คัน ทั้งนี้ มีการแยกแฟ้มเอกสารตามยี่ห้อรถ พบว่ามีรถเบนซ์มากที่สุด รองลงมาคือ บีเอ็มดับเบิลยู
ด้านนายธาริต เปิดเผยว่า การตรวจเอกสารนี้จะตรวจสอบหาข้อมูลของรถแต่ละคัน ตั้งแต่การนำเข้าชิ้นส่วน การเสียภาษีศุลกากร ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะต้องมาตรวจว่าลายเซ็นในเอกสารถูกปลอมแปลงหรือไม่ นอจากนี้ยังมีการตรวจสอบเอกสารการจดประกอบในไทย, การเสียภาษีสรรพสามิต และการตรวจสอบสมรรถนะรถยนต์จากสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรม (สมอ.) ส่วนรถยนต์ที่เป็นรถใช้แก๊ส หากมีความผิดปกติด้านเอกสาร จะต้องตรวจสอบรถด้านกายภาพวันที่ 24 มิถุนายนนี้
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ตนได้กำหนดเส้นตายการตรวจสอบเอกสารของบริษัทรถในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดยจะตรวจสอบออนไลน์ที่เลขซีรีส์ของรถ, เลขเครื่อง เลขตัวถังรถยนต์ อย่างไรก็ตาม สำหรับรถเบนซ์ เนื่องจากมีจำนวนมากเกินไปจะต้องตรวจหมายเลขเกียร์และสีเพื่อยืนยันเพิ่มเติม
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นายนที ริ้วทอง ผู้ต้องหาที่มีการซัดทอดว่ามีการว่าจ้างให้จ้างนางองุ่น จึงแสงมณี เจ้าของรถเทรลเลอร์ขนรถหรูนั้น ตอนนี้ดีเอสไอได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าผู้ว่าจ้างนายนที เป็นเสี่ยในวงการรถหรู 2 คันอย่างชัดเจน ดังนั้น ดีเอสไอจึงอยากให้เสี่ยทั้งสองเข้ามามอบตัวก่อนที่จะออกหมายจับ นอกจากนี้ ดีเอสไอได้ตรวจสอบกระแสการเงินของเสี่ยทั้งสอง พบว่ามีการโอนเงินมากกว่า 10 ล้านบาทไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางดีเอสไอสันนิษฐานว่าเป็นการโอนเงินไปซื้อรถยนต์ และรถทั้ง 6 คันที่ถูกไฟไหม้ เป็นรถที่ขโมยหรือนำเข้ามาจากมาเลเซียโดยหลีกเลี่ยงภาษี
สุดท้าย อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กระแสข่าวรถหรูที่เชื่อมโยงกับนักการเมือง ตอนนี้กำลังตรวจสอบหาพยานหลักฐานอยู่ ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มเช่น กลุ่มนำเข้า กลุ่มประกอบรถ กลุ่มจดทะเบียน กลุ่มฝ่ายขาย คาดว่าน่าจะใช้เวลาตรวจสอบสักระยะหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
