เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ตำรวจจีนส่งตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 19 คน มาดำเนินคดีในไทย โดยพบว่า หัวหน้าแก๊งเป็นชาวไต้หวัน และใช้คนไทยโทรหลอกเหยื่อว่าเป็นหนี้ต้องจ่ายค่าเสียหาย รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันนี้ (21 มิถุนายน 2556) ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ประตูทางออก 1 สนามบินดอนเมือง พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 15 คน ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวถูกจับกุมและส่งตัวมาจากประเทศจีนเพื่อดำเนินคดี
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ปอศ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก กรณีมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปหา โดยอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางแห่งประเทศไทยติดต่อมาเพื่อแจ้งหนี้ที่ต้องจ่ายด้วยการโอนเงิน ก่อนสืบทราบว่า แก๊งดังกล่าวมีฐานที่ตั้งอยู่ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน จึงได้มีการติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 1 ปี พร้อมประสานข้อมูลกับตำรวจของประเทศจีน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 19 คน เป็นชาวจีน 4 คน ชาวไทย 15 คน โดยพบว่า ในหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาบางรายมีข้อมูลการเข้า-ออกประเทศจีนบ่อยครั้งมาก
จากการสอบสวนทราบว่า แก๊งดังกล่าวมี นายฉิง เกอ ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยมีคนไทยคอยทำหน้าที่หลอกเหยื่อได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-12,000 บาท บวกค่าคอมมิชชั่นจากยอดเงินที่หลอกได้ 3-7 เปอร์เซ็นต์ จากการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้น พบว่า มูลค่าความเสียหายนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 20,000,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนไทย บางรายสูญเงินกว่า 1,000,000 บาท และพบว่า แก๊งดังกล่าวเป็นคนละกลุ่มกับที่เคยจับไปก่อนหน้านี้
ด้าน น.ส.สุปราณี ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเป็นชาวจังหวัดเลย อาศัยอยู่ อ.เอราวัณ เพิ่งเข้ามาทำงานกับแก๊งนี้ได้ 1 เดือน โดยมีคนรู้จักเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันชวนมาทำแบบไม่ต้องเสียค่านายหน้า ซึ่งจะมีการสอนให้พูดตามสคริปท์ที่ตั้งเอาไว้ โดยหลอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทยโทรศัพท์ไปแจ้งเรื่องหนี้สิน หลังมีการตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงิน ซึ่งที่ผ่านมาได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชั่น 3 เปอร์เซ็นต์ และทำมาแล้ว 2 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดควบคุมตัวที่ ปอศ. ก่อนจะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลา 10.00 น. ของวันนี้ และจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก