ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กระทรวงคมนาคม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เผย สั่งข้าราชการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมระดับ ซี 9 ขึ้นไปในกรุงเทพฯ ขึ้นรถเมล์อย่างน้อยสัปดาห์ละหน เพื่อสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนที่โดยสารรถเมล์ หลังปัญหาหมักหมมมานาน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยวันนี้ (25 มิถุนายน 2556) ว่า ได้ขอความร่วมมือให้ข้าราชการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจระดับ 9 ขึ้นไปของกระทรวงคมนาคมที่อยู่ในกรุงเทพฯ ใช้บริการขึ้นรถโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือรถร่วมบริการ ขสมก. อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน เป็นเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 สิงหาคมนี้ เพื่อสำรวจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่โดยสารรถเมล์ เนื่องจากอยากให้ผู้บริหารทุกคนเห็นถึงปัญหาจริง ๆ และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว จากนั้นจะให้ผู้บริหารสรุปรวบรวมปัญหาทั้งหมดเสนอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จต่อไป
ทั้งนี้ นายชัชชาติ เผยว่า ที่ผ่านมาตนเคยใช้บริการรถ ขสมก. แล้วพบว่า ปัญหาใหญ่ขณะนี้คือการให้บริการไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเย็น ซึ่งก็ได้ให้ ขสมก. กลับไปจัดทำรายละเอียดและแนวทางแก้ปัญหามาแล้วว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่น คนขับรถเมล์ไม่ต้องการขับกะเย็นหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องแปลกที่การให้บริการในช่วงเช้าไม่ค่อยพบปัญหาการขาดช่วง แต่กลับมีปัญหาในช่วงเย็น ทำให้มีผู้โดยสารรอรถเมล์เป็นจำนวนมาก
สำหรับการให้ผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมมานั่งรถเมล์นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องตลก เพราะเขาอยากให้ผู้บริหารทุกคนเห็นถึงปัญหาจริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร แล้วมานั่งคุยกันว่าจะแก้ปัญหาแบบบูรณาการได้อย่างไร ทั้งไม่อยากให้ ขสมก. รอแต่จะซื้อรถเมล์ใหม่ เพราะการซื้อรถเมล์ใหม่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่ควรต้องแก้ในเรื่องการจัดเวลาปล่อยรถและดูเส้นทางให้เหมาะสมด้วย ซึ่งก็พูดกับ ขสมก. มาหลายรอบแล้ว จึงอยากให้ผู้บริหารระดับ 9 ขึ้นไป และข้าราชการระดับอื่นที่ใช้บริการรถเมล์ เสนอมาได้ที่หัวหน้าหน่วยงาน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อนกันมานานแล้ว
ส่วนรถโดยสารประเภทอื่น โดยเฉพาะรถแท็กซี่ ที่ยังได้รับการร้องเรียนเรื่องการปฏิเสธผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า ได้ให้กรมการขนส่งทางบกไปหาแนวทางแก้ปัญหาแล้ว ว่าจะแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางได้อย่างไร เพราะการตรวจจับเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทางเท่านั้น โดยให้ไปศึกษาว่าสาเหตุที่ปฏิเสธผู้โดยสารมีอะไรบ้าง เช่น รถติด ไม่คุ้มค่าโดยสาร และจะมีทางออกอย่างไรที่ไม่ให้เดือดร้อนทั้งผู้โดยสารและคนขับแท็กซี่ เช่น การปรับขึ้นค่ามิเตอร์ หรือปรับลดอัตราค่าเช่า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถึงแนวทางการแก้ปัญหารถติด ปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าบางเส้นทางที่มีพื้นที่ทับซ้อนกัน และการส่งมอบพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
