เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
พญ.พรทิพย์ ไม่เชื่อผลชันสูตร เอกยุทธ อัญชันบุตร บอกยังมีข้อน่าสงสัยหลายข้อ และหลักฐานก็ยังไม่ชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบปิดคดีเกินไป ขณะที่ทนายความ ระบุ ก่อนตาย เอกยุทธ เผยมีเพียงประเด็นเดียว คือขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง
เมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม 2556) พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมแพทย์ผู้ชันสูตรศพ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร เข้าให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับชันสูตรศพ
โดย นพ.สมบูรณ์ คุโรปกรณ์พงษ์ รองผอ.ด้านบริหารปฐมภูมิและทุติยภูมิ โรงพยาบาลพัทลุง ชี้แจงถึงผลชันสูตรว่า ไม่พบร่องรอยการถูกรัดคอ มัดมือและเท้า มีเพียงรอยช้ำขนาดใหญ่เท่าเหรียญบาทที่บริเวณลำคอ ซึ่งเป็นรอยของการถูกกระแทกหรือกดเท่านั้น นอกจากนี้มีรอยยุบที่ศีรษะไม่มีรอยแตก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าเกิดจากสมองขาดอากาศ
ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้หลายประเด็น เกี่ยวกับการหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อาทิ การตั้งประเด็นในคดีน้อยเกินไป, การใช้รถคันเกิดเหตุทำภารกิจอื่น และการจำลองแผนคำรับสารภาพ แทนการตรวจสอบหาร่องรอยของคนร้าย โดยตนเห็นว่าแพทย์ที่เข้าไปชันสูตรศพไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่ เนื่องจากมีผู้กำกับในที่เกิดเหตุ ซึ่งคดีนี้ควรใช้แพทย์นิติเวชมากกว่าแพทย์ในพื้นที่ นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่จะเร่งติดตามทรัพย์สินของผู้ตายที่สูญหายกลับคืนมา
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า จริง ๆ แล้วก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนคดี ต้องรอผลการพิสูจน์จากนิติวิทยาศาสตร์เสียก่อน พร้อมกับสอบปากคำพยานและหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งรูปคดีลักษณะดังกล่าวในปัจจุบันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าหากรัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความโปร่งใสในการสืบสวนสอบสวนได้ ก็จะมีเหยื่อในคดีแบบนี้อีกจำนวนมาก และก็ไม่มีหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาค้านอำนาจตรงนี้ได้
ส่วนทางด้าน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ ได้ตั้งข้อสังเกตเช่นกัน โดยระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตว่า น่าจะเกิดจากประเด็นทางการเมืองมากกว่าประสงค์ต่อทรัพย์ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเร่งปิดคดี เนื่องจากคนร้ายหวังข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เพียงเท่านั้น และก่อนที่จะเสียชีวิต นายเอกยุทธเคยระบุว่า มีเพียงประเด็นเดียวเท่านั้นคือขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมาธิการฯ จะขอมติเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ลงพื้นที่เรือนจำ เพื่อพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
