x close

จ่อฟัน 8 ข้อหา หลวงปู่เณรคำ-อายัดทรัพย์ 21 บัญชี 200 ล้าน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

             อธิบดี DSI เผยผลประชุมกับ 5 หน่วยงาน กรณีหลวงปู่เณรคำ พบความผิดจริง 8 ข้อหา สั่งอายัดทรัพย์ 21 บัญชี 200 ล้าน เตรียมยึดพาสปอร์ต จับสึก ด้านกัปตันปิยะ เข้าให้ปากคำ บอกพูดความจริงทั้งหมด

             นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9 กรกฎาคม) เวลา 09.30 น. ตนเองจะเป็นประธานการประชุมร่วมกับ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงาน ปปง. สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกองปราบปราม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานรวบรวมได้ และกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกัน กรณีการตรวจสอบพฤติกรรมและเส้นทางการเงินของ พระเณรคำ ซึ่งวาระการประชุมคือ จะให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษทันที เนื่องจากพบว่าหลักฐานที่ตรวจสอบได้ เข้าข่ายบัญชีแนบท้ายคดีพิเศษของดีเอสไอ โดยไม่ต้องนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ

             นอกจากนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า เมื่อคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว อาจจะมีคดีเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ เนื่องจากมีฐานความผิดหลายกระทง อาทิ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี คดีพรากผู้เยาว์ คดีฉ้อโกง คดีเกี่ยวกับทางสงฆ์ ซึ่งทั้งหมด ดีเอสไอ จะขอศาลออกหมายจับในทันที เพื่อให้คดีมีผลในทางปฏิบัติด้วย


             ด้าน พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในวันนี้ ตนเองและทีมงาน จะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ อีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานในคดีพระเณรคำ ฉัตติโก โดยจะไปตรวจสอบผลดีเอ็นเอของผู้ที่อ้างว่าเป็นลูกของเณรคำ ซึ่งส่งไปตรวจก่อนหน้านี้แล้ว และสอบพยานเพิ่มเติมอีกหลายปาก

             นอกจากนี้ ในวันนี้ เวลา 10.00 น. กัปตันปิยะ ตรีกาลนนท์ ที่เป็นผู้ขับเครื่องบินเจ็ทให้เณรคำ จะเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอประเด็นที่ว่า จะมีการซื้อเครื่องบินเจ็ทของเณรคำ ที่พูดคุยและให้ติดต่อซื้อมา รวมไปถึงเงินในธนาคารต่างประเทศด้วย หลังจากนั้น นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ลูกศิษย์พระเณรคำ จะเข้าพบพนักงานสอบสวน ในเวลา 13.00 น. เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน

            ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดเผยหลังจากหารือร่วมกับ 5 หน่วยงาน เกี่ยวกับการวางแผนการสืบสวนเส้นทางการเงินที่ต้องสงสัย และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ว่า ตนเพิ่งเซ็นคำสั่งอนุมัติให้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ตามที่ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง โดยจากผลการประชุมทั้ง 5 หน่วยงาน มีประเด็นที่พบว่าเข้าข่ายเป็นความผิด รวม 8 ข้อหา ดังนี้

            1. การใช้สื่อสารสนเทศลงโฆษณาอันเป็นเท็จ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณชน เบื้องต้นถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14  เกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ  เนื่องจากอ้างว่าได้เข้าเฝ้าพระอินทร์ ซึ่งพระอินทร์สั่งให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่  ดีเอสไอวิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นความผิดจริง

            2. กรณีการกระทำชำเราเด็กหญิงและพรากผู้เยาว์ซึ่งเป็นความผิดอาญา มาตรา 277 และ 317 วรรค 3

            3. กรณีที่หลวงปู่เณรคำกับพวกมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีรถหรู ซึ่งเบื้องต้นพบรถต้องสงสัย 9 คัน ทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู  มินิคูเปอร์  นิสสันฟิกาโร ซึ่งน่าจะนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และรถเบนซ์อีกจำนวนหนึ่งที่ซื้อใน จ.อุบลราชธานี 

            4. กรณีเสพยาเสพติดให้โทษ

            5. การแสดงและใช้วุฒิการศึกษาเท็จว่าจบดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษา 

            6. คดีฆ่าคนตายโดยประมาทจากการขับรถชนคนตาย

            7. ความผิดฐานฟอกเงินกรณีการเบียดบังเงินบริจาคไปซื้อทรัพย์สินและการนำเงินไปฝากในต่างประเทศ

            8. การอวดอุตริ อภินิหาร

            ทั้งนี้ หลังรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ดีเอสไอจะประสานให้กองปราบบังคับการปราบปรามส่งสำนวนที่สืบสวนได้มาอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ 

            นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่พบความผิดชัดเจนในวันนี้ ตนจะทำหนังสือถึง ผอ.พศ. เพื่อดำเนินการให้ หลวงปู่เณรคำพ้นจากความเป็นพระสงฆ์ทันที และจะขอให้ พศ. ถอนหนังสือเดินทางจากกระทรวงต่างประเทศด้วย  เพื่อให้หลวงปู่เณรคำอยู่ในประเทศฝรั่งเศสโดยไม่มีหนังสือเดินทาง และต้องออกนอกประเทศฝรั่งเศสในที่สุด

            สำหรับในวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ทาง ดีเอสไอจะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจดีเอ็นเอเด็กชายวัย 11 ปี ซึ่งมารดาอ้างว่าเป็นลูกของหลวงปู่เณรคำ รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับพ่อแม่ของหลวงปู่เณรคำด้วย เนื่องจากไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอหลวงปู่เณรคำได้ เพราะเจ้าตัวไม่ยอมกลับ แต่ทั้งนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอของพ่อแม่ ซึ่งเป็นญาติสายตรงลำดับรอง ผลที่ได้จะเชื่อถือได้ 99% และจะทราบผลความเป็นพ่อแม่ลูกได้ภายใน 24 ชั่วโมง

            อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอ จะยกกรณีหลวงปู่เณรคำให้เป็น "เณรคำโมเดล" จัดเวิร์กช็อปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องราวเช่นนี้อีก ซึ่งอาจจะแก้ไขระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับพระสงฆ์ให้ชัดเจนขึ้น พร้อมทั้งดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝาก 21 บัญชี วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อส่งให้ทาง ปปง. นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 19 กรกฎาคม นี้  นอกจากนี้จะทำหนังสือขอให้ใช้มาตรการทางแพ่ง ที่ดิน รถยนต์ ในความครอบครองของหลวงปู่เณรคำโดยเร็ว เนื่องจากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว

            ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์  ผอ.พศ. ในฐานะเลขานุการมหาเถรสมาคม ระบุว่า เมื่อคดีนี้เป็นคดีอาญาแล้ว พนักงานสอบสวนมีอำนาจในการสละสมณะเพศของหลวงปู่เณรคำได้โดยไม่ต้องรอให้เจ้าตัวกลับประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 วัน สำหรับกรณีที่คณะสงฆ์หลายจังหวัดรับมอบรถยนต์และทรัพย์สินจากหลวงปู่เณรคำ หากพบว่ามีการสมยอม ก็มีความผิดเช่นกัน ซึ่งในการรับหรือมอบสิ่งของทรัพย์สินนั้น ต้องพิจารณาด้วยว่ามีเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่

            ส่วนทางด้าน กัปตันปิยะ ตรีกาลนนท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท บางกอกเอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด หรือบีเอซี อดีตกัปตันที่จัดหาเครื่องบินเจ็ทให้กับหลวงปู่เณรคำ เพื่อใช้เดินทางระหว่าง จ.อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ได้เดินทางให้ปากคำ โดยระบุว่า ตนจะพูดในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงที่ทราบเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่พลเมืองดี ซึ่งข้อเท็จจริงก็เป็นไปตามที่ตนระบุไว้ในเฟซบุ๊ก และขอโทษที่พาดพิงถึงบุคคลที่สามคือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ตนระบุว่ามีการปิดชั้นทั้งชั้นเพื่อให้หลวงปู่เณรคำเข้าพัก

            กัปตันปิยะ เล่าว่า หลวงปู่เณรคำได้ให้ลูกศิษย์ติดต่อขอเช่าเครื่องบินแบบเหมาลำเมื่อ 3 ปีก่อน ในช่วงเดือนมิถุนายน 2553 โดยเป็นการใช้บริการเดินทางจาก จ.อุบลราชธานี มายังกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเคยเหมาไปประเทศมาเลเซีย 1 ครั้ง ส่วนกรณีเงินดอลลาร์ที่อยู่ในย่ามของหลวงปู่เณรคำนั้น ตนไม่ทราบว่าเขาเอาไปใช้ที่ใด ส่วนการจ่ายค่าบริการทุกครั้ง จะมีลูกศิษย์นำเงินสดมาจ่ายให้ อย่างไรก็ตาม หลวงปู่เณรคำใช้บริการที่บริษัทของตนเพียง 4 เดือน ก็เปลี่ยนไปใช้บริการสายการบินอื่น ส่วนเรื่องการเช่าเครื่องบินเหมาลำไปต่างประเทศนั้น ผ่านขั้นตอนตรวจสอบเหมือนเที่ยวบินปกติ แต่มีช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้โดยเฉพาะ







อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จ่อฟัน 8 ข้อหา หลวงปู่เณรคำ-อายัดทรัพย์ 21 บัญชี 200 ล้าน โพสต์เมื่อ 9 กรกฎาคม 2556 เวลา 08:45:05 11,330 อ่าน
TOP