ไทด์ พัชรพล สุทธิธรรม คือเศรษฐี 100 ล้าน ในวัยเพียง 22 ปี หลังจากเคยเป็นเด็กเกเร และติดเกมอย่างหนักจนพ่อแม่คิดว่าถูกลักพาตัว ไทด์ พัชรพล จึงเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นนักธุรกิจส่งออกเครื่องสำอางมูลค่านับ 100 ล้านบาท
เชื่อหรือไม่? ว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ หากยังไม่เชื่อวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ไทด์ พัชรพล สุทธิธรรม ซึ่งเป็นตัวอย่างของเด็กที่เคยเกเร ไม่ตั้งใจเรียน และติดเกมอย่างหนัก แต่กลับประสบความสำเร็จกับธุรกิจเครื่องสำอาง จนทำให้เขากลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน รายการวีไอพี (8 กรกฎาคม 2556) ขอเชิญเขามาร่วมพูดคุยถึงเส้นทางสายธุรกิจ และเปิดใจว่าเพราะอะไรเขาจึงประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ..
ไทด์ พัชรพล คือเด็กชายสมาธิสั้น ที่เรียนไม่เก่ง และมักสอบได้ที่โหล่มาตลอด อีกทั้งพอโตขึ้น ไทด์ พัชรพล ก็กลายเป็นคนติดเกมออนไลน์ ถึงขนาดเคยแอบแม่ออกไปเล่นเกมตั้งแต่ช่วงเย็น และปิดโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งครอบครัวคิดว่าเขาถูกลักพาตัว เพราะไปตามหาที่ร้านเกมก็ไม่เจอ เนื่องจากเขาเล่นอยู่อีกร้านหนึ่ง
นอกจากนี้ ไทด์ พัชรพล ยังติดการ์ตูนมาก โดยมักจะไปเช่ามาอ่าน และสอดไส้เอาไว้ข้างในหนังสือเรียน อีกทั้งยังมีเพื่อนเป็นกลุ่มที่ชอบเสพยาไอซ์ โชคดีที่ไทด์บอกว่า เขาเคยโดนเพื่อนชวนให้ลอง แต่เขาลองอย่างมากที่สุดก็แค่บุหรี่เท่านั้น
เมื่อไทด์ พัชรพล ทำตัวเกเรอย่างหนัก คุณพ่อจึงต้องบังคับให้เขาไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อกราบหลวงปู่สดและฟังเทศน์ จนกระทั่งเขารู้สึกซึ้งในรสพระธรรม จากนั้นจึงเปลี่ยนตัวเองด้วยการช่วยงานบุญต่าง ๆ และฝากตัวเป็นลูกศิษย์วัด ทำให้มัววุ่นวายกับกิจกรรมจนลืมความอยากเล่นเกมไปได้ ซึ่งจากการเลิกเล่นเกมนั่นเอง ทำให้เกรดของเขาพุ่งขึ้นจากที่โหล่กลายเป็น เกรด 3.75 ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเกิดลูกฮึดในการเรียนอย่างมาก
ไทด์ พัชรพล เริ่มต้นเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอางด้วยแนวคิดว่า ตลาดเครื่องสำอางเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการสูง ดังนั้น ไทด์ พัชรพล ในวัย 18 ปี จึงเริ่มต้นมองหาธุรกิจส่วนตัว และได้น้าที่เคยเป็นผู้จัดการของเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น มาช่วยดูแลและคิดค้นสูตรครีม จากนั้นจึงเริ่มต้นผลิตครีมเองในโรงรถที่บ้าน ก่อนจะนำสินค้าไปแจกให้เพื่อนใช้ อีกทั้งยังแอบนำไปใส่ไว้ในห้องน้ำที่โรงเรียน จนกระทั่งเพื่อน ๆ ถามและช่วยกันสั่งซื้อ
จากนั้น ไทด์ พัชรพล จึงเข้าไปปรึกษากรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งกำลังมีโครงการมองหาตัวแทนบริษัทจากประเทศไทย 15 บริษัท ที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ไปขายต่างประเทศ เขาได้นำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอคณะกรรมการ และผ่านการพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการส่งออก และเริ่มมองหาช่องทางที่จะขยายโรงงานผลิต
เมื่อต้องการขยายโรงงานผลิต ไทด์ พัชรพล จึงเดินหน้านำเสนอแผนธุรกิจกับธนาคารต่าง ๆ เพื่อขอกู้เงินมาต่อยอดธุรกิจ แต่กลับถูกปฏิเสธหมดทุกแห่ง เนื่องจากเขาเพิ่งอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เมื่อมีผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง มองเห็นความตั้งใจจริงของเขา และอยากสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ให้พัฒนาแนวคิด แต่ด้วยจำนวนเงินกู้ 6 ล้าน ทำให้เขาต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย ไทด์ พัชรพล จึงไปติดต่อโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการใหม่โดยรัฐบาล เพื่อให้ช่วยค้ำประกัน จนกระทั่งได้อนุมัติเงินก้อนแรกมาสร้างโรงงาน
ในการบริหารพนักงานจำนวน 30 กว่าคน ไทด์ พัชรพล ได้จัดกิจกรรมให้พนักงานสวดมนต์ในช่วงเช้าของทุกวัน เพราะเขาเชื่อว่าหากพนักงานทุกคนมีจิตใจที่ละเอียดอ่อน ก็จะสามารถผลิตเครื่องสำอางได้จากใจ อีกทั้งยังมีการร่วมกันไปทำบุญที่วัดทุกอาทิตย์ต้นเดือน และตกแต่งออฟฟิศให้มีบรรยากาศเหมือนรีสอร์ทเพื่อให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลายด้วย
และนี่คือเรื่องราวความสำเร็จของเด็กวัยรุ่นที่เคยใช้ชีวิตอย่างประมาท แต่สุดท้ายก็สามารถปรับปรุงตัวและเริ่มเรียนรู้ที่จะก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจ จนกระทั่งกลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่กิจการกำลังก้าวหน้า เยี่ยมไปเลยจ้า