เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หนุ่มคลั่งใช้ขวานจามหัวคนขับรถเมล์ขณะกำลังขับรถ ทำรถเสียหลักพุ่งชนแท่งปูน บาดเจ็บ 5 ราย ด้านคนขับยัน ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ขวานทำร้ายคนขับรถประจำทางสาย 17 ได้รับบาดเจ็บ ปากซอยพระราม 2 ที่ 41 (ฝั่งขาออก) แขวงบางมด เขตจอมทอง จึงรุดไปตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบรถร่วมบริการประจำทางสาย 17 สีชมพู หมายเลขทะเบียน 12-6824 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-บางประกอก พุ่งชนแท่งปูนกลางถนนพระราม 2 จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย คือ นายสราวุธ มะนานาม อายุ 31 ปี คนขับรถคันดังกล่าว ถูกฟันที่ศีรษะและข้อมือด้านขวา ส่วนอีก 4 รายเป็นผู้โดยสารซึ่งตกใจพลัดตกจากรถประจำทางจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบสวน นายสราวุธ เล่าว่า ตนเพิ่งมารับจ้างขับรถสายดังกล่าวได้ประมาณ 1 ปี ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้โดยสารอยู่เต็มคัน เมื่อมาถึงป้ายวัดพุทธบูชาได้มีคนร้ายรูปร่างผอม สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ขึ้นมาบนรถ โดยได้ยืนอยู่บริเวณประตูกลางรถ จากนั้นพอตนได้ขับรถเลื่อนออกจากป้ายดังกล่าวได้เพียง 2 ป้าย คนร้ายได้ดึงหมวกลงมาปิดทั้งใบหน้าแบบไอ้โม่ง ก่อนจะปรี่เข้ามาที่หน้ารถจากนั้นได้ใช้ขวานที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมาฟันที่ศีรษะตนอย่างแรง ด้วยความตกใจจึงทิ้งพวงมาลัยลุกขึ้นมาต่อสู้ป้องกันตัว เป็นเหตุให้รถเสียหลักพุ่งชนแท่งปูนบนถนนจนเสียหาย หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งหนีโดยวิ่งข้ามถนนพระราม 2 ไปอีกฝั่งก่อนจะหลบหนีไป
ทั้งนี้ นายสราวุธ ยืนยันว่า ตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ตลอดเวลาที่ขับรถมาก็ไม่เคยขับรถปาดหน้าใครด้วย ขับรถมาด้วยความระวัดระวัง ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นอกจากนี้ จากสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์หลายปากให้การตรงกันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุสวมแว่นสายตาสั้นขึ้นมาบนรถก่อนจะดึงหมวกไหมพรมปิดหน้าและเข้าไปฟันหัวนายสราวุธ ซึ่งพยานส่วนใหญ่เชื่อว่าคนร้ายตั้งใจมาทำร้ายนายสราวุธแค่คนเดียว เพราะหลังก่อเหตุไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินใครและยังทิ้งขวานของกลางไว้ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งขวานดังกล่าวเพิ่งซื้อมาใหม่เอี่ยม ยังไม่ได้แกะป้ายออกเลย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะสอบสวนนายสราวุธอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเคยมีปากเสียงกับใครหรือไม่ พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
