เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยืนยัน เคยเก็บตัวอย่างข้าวจาก 3 โรงสี รวมทั้งบริษัทจำหน่ายที่ตกเป็นข่าวหนูกินแล้วตายมาตรวจสอบ แต่ไม่พบสารพิษปนเปื้อน จึงเตือนผู้บริโภคอย่าเชื่อข่าวลือที่ผู้ไม่หวังดีปล่อยออกมา
จากกรณีที่มีข่าวกระแสข่าวในโลกออนไลน์ถึงการตรวจพบสารพิษปนเปื้อนชนิดร้ายแรงและมีพิษเฉียบพลันในข้าวสารจาก 3 โรงสีในจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดยโสธร ที่มีการกล่าวอ้างว่าหนูเดินเข้าไปแล้วเสียชีวิตนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 นายดำรงค์ จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้ออกมายืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทางรัฐบาล รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการเก็บตัวอย่างข้าวสารที่วางจำหน่าย ทั้งในห้างค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป มาตรวจสอบหาสารปนเปื้อน เช่น สารรมข้าว ตลอดจนสารพิษอื่น ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว
ซึ่งผลปรากฏว่า ไม่พบสารพิษใด ๆ ตกค้างในข้าวสารที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดแม้แต่ยี่ห้อเดียว โดยเฉพาะข้าวสารจากทั้ง 3 โรงสี และจากบริษัทที่ผลิตออกมาจำหน่ายตามที่ตกเป็นข่าวนั้น กรมวิชาการเกษตรก็เคยเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่พบสารพิษปนเปื้อนแม้แต่ชนิดเดียว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของข้าวไทยทั้งที่บริโภคภายในประเทศและส่งออก กรมวิชาการเกษตรจึงส่งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ลงไปเก็บตัวอย่างข้าวจาก 3 โรงสี ตามที่เป็นข่าวมาตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ขอให้ผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่มีผู้ไม่หวังดีปล่อยออกมา ขอยืนยันด้วยความมั่นใจอีกครั้งว่า ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้เก็บตัวอย่างข้าวมาตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยไม่พบความผิดปกติของข้าวทุกโรงสี และทุกบริษัทที่ผลิตข้าวสารจำหน่ายแม้แต่รายเดียว
นอกจากนี้ นายดำรงค์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากเป็นสารพิษที่ทำให้หนูตายได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ คงไม่ใช่สารรมข้าว แต่จะต้องเป็นสารเบื่อหนู รวมถึงสารพิษอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เช่น ยาฆ่าแมลง แต่สารเหล่านี้ เมื่อเจอน้ำหรือความชื้น มันจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง และมีกลิ่นฉุนมากจนมนุษย์สามารถรับรู้ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
