x close

DSI ล่า เณรคํา ผู้ร้ายข้ามแดน-แฉ สร้างพระแก้วมรกตจำลองเพียบ


หลวงปู่เณรคํา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

          หลวงปู่เณรคํา พ้นสภาพสงฆ์แล้ว DSI เล็งขอหมายจับ ขอส่งตัวกลับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ด้าน กรมศิลป์ฯ เผย เณรคํา แอบสร้างพระแก้วมรกตจำลองเพียบ ขณะที่ ปปง. เล็งขออายัดทรัพย์ต่างแดน

          เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2556 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีพฤติกรรมและการกระทำโดยไม่ชอบของ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ว่า ในวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น. จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาออกหมายจับนายวิรพล ในคดีความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยหญิงผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศกระทั่งมีลูกด้วยกัน 1 คน จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างเป็นทางการกับพนักงานสอบสวนด้วย
   
          สำหรับการติดตามทรัพย์สินที่มีจำนวนมากนั้น  ยอมรับว่ามีความล่าช้า เพราะทรัพย์สินถูกยักย้ายถ่ายโอนออกไป แต่ดีเอสไอยืนยันจะพยายามติดตามกลับมาให้ได้มากที่สุด ส่วนการนำตัวนายวิรพลกลับมาดำเนินคดีในประเทศนั้น ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการคดีต่างประเทศและอาชญากรรมระหว่างประเทศ เป็นผู้รับผิดชอบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่นายวิรพลจะถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพราะในต่างประเทศให้ความสำคัญกับคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและคดีความผิดฐานฟอกเงิน

          ทางด้าน พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากพระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับถวายรถยนต์จากนายวิรพลแสดงเจตนาจะขอคืนรถแล้ว 3 คัน โดยอ้างว่าไม่สบายใจ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดีเอสไอพยายามให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายในการชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงฝ่ายที่ถูกกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนพยายามติดต่อขอเข้าไปสอบปากคำที่บ้านหลายครั้ง แต่ญาติไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ ดังนั้นการดำเนินคดีดังกล่าวไม่ได้เป็นการสอบปากคำเพียงฝ่ายเดียว แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ให้ความร่วมมือและไม่ใช้โอกาสในการชี้แจงข้อเท็จจริงเอง



          ในส่วนของการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองนั้น นายขจร มุกมีค่า ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี กล่าวว่า ได้ทำข้อสรุปประเด็นการตรวจสอบการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองที่สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมเพิ่มเติม หลังจากสำรวจเบื้องต้นคาดว่าวัสดุที่ก่อสร้างจะเป็นหินชนิดหนึ่ง ส่วนจะเป็นหยกหรือไม่ต้องรอผลการตรวจสอบโดยใช้เทคนิควิธีทางวิทยาศาสตร์จากสถาบันอุดมศึกษาใน จ.อุบลราชธานีก่อน คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์
   
          ทั้งนี้ ได้จัดทำรายงานรายละเอียดทั้งหมดเสนอไปยังนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากรแล้ว เบื้องต้นสามารถจำแนกพระแก้วมรกตจำลองที่สร้างในสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมไม่ได้มีเฉพาะองค์เดียว แต่จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่

          1. พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่มีการกล่าวอ้างว่าใหญ่ที่สุดในโลก 1 องค์

          2. องค์ขนาดกลาง คือ ที่อยู่ด้านหน้าองค์ใหญ่ ตรงพื้นราบ 3 องค์ กับที่อยู่ในบริเวณสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ยังไม่สามารถนับได้ว่ามีกี่องค์ แต่พบแม่พิมพ์ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ด้วย

          3. องค์ขนาดเล็ก 4 องค์ ประกอบด้วย องค์ทรงเครื่องฤดูร้อน ประดิษฐานในบุษบก 1 องค์ และอีก 3 องค์ ทรงเครื่องแต่ละฤดู ตั้งไว้ให้คนมาคอยทำบุญ โดยจะมีบาตรเจาะรูที่ฝาไว้ให้ใส่เงิน ส่วนพระแก้วมรกตจำลองแต่ละองค์มีขนาดเท่าไหร่คงจะต้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง

          ขณะที่ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวว่า ปปง. สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดทรัพย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำที่มีในต่างประเทศได้ โดยจะวิเคราะห์เงินบริจาคว่าเกิดจากการถูกล่อลวงให้บริจาคหรือไม่ รวมไปถึงประเด็นการยักยอกทรัพย์สินของสำนักสงฆ์ขันติธรรม และการฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของธนาคารต่าง ๆ พบว่า มีบัญชีที่เกี่ยวโยงกับเณรคำ 10 หมุน และมีเงินหมุนเวียนอยู่ 200 ล้านบาท

          นอกจากนี้ ปปง. ยังย้ำว่า สามารถตรวจสอบและยึดทรัพย์ในต่างประเทศของอดีตพระวิรพลได้แน่ โดยผ่านการประสานกับสำนักงาน ปปง. ของแต่ละประเทศ หากพบว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และมีพยานหลักฐานชัดเจน


หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2556


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
DSI ล่า เณรคํา ผู้ร้ายข้ามแดน-แฉ สร้างพระแก้วมรกตจำลองเพียบ โพสต์เมื่อ 14 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:52:34 2,639 อ่าน
TOP