x close

หัวอกแม่เปิดใจนาทีชีวิตน้องน้ำหนึ่ง ก่อนจากไปอย่างไม่มีวันกลับ


เปิดใจคุณแม่น้องน้ำหนึ่ง

น้ำหนึ่ง ณมน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเด่นเย็นนี้โพสต์โดย คุณ เรื่องเล่า เช้านี้ , เฟซบุ๊ก Namon Wongsarot, Instagram chomismaterialgirl, numnueng

          มะเร็งเซลล์ประสาท คร่าชีวิต น้องน้ำหนึ่ง ณมน ในเวลาเพียงแค่เดือนเศษ ๆ รายการเจาะข่าวเด่น ขอเปิดใจหัวอกแม่ที่พยายามสุดชีวิตเพื่อรักษาลูกสาวให้ได้ แม้ว่าท้ายที่สุดจะไม่สามารถฝืนต่อชะตาได้

          น่าตกใจไม่น้อยกับข่าวที่ น้องณมน หรือ น้ำหนึ่ง กัญณนนพัทน์ วงศาโรจน์ เจ้าของประโยค "ชิดกว่าชมอีก" ในโฆษณาชุดชั้นในยี่ห้อหนึ่ง เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียงแค่ 24 ปี หลังจากล้มป่วยด้วยโรคที่เรียกว่า "มะเร็งเซลล์ประสาท" เรื่องนี้ ทำให้หลายคนเกิดกลัวโรคมะเร็งเซลล์ประสาทกันขึ้นมา เพราะเห็นแล้วว่าเป็นโรคที่หากเป็นแล้วอาการจะทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นเสียชีวิต ทางรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 จึงได้เชิญคุณภัทธญา ทัพพ์ภูวิศ คุณแม่ของน้องน้ำหนึ่งมาร่วมพูดคุยกัน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 กรกฎาคม 2556

          ทั้งนี้ คุณแม่ได้เล่าว่า น้องน้ำหนึ่งเริ่มมีอาการครั้งแรกจวบจนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาเพียงเดือนเศษ ๆ เท่านั้น โดยเริ่มจากมีอาการตาเป็นฝ้า มองไปแล้วเห็นเป็นฝ้าขาว ๆ ระยิบระยับ ขนาดเข้าไปในโรงภาพยนตร์ น้องก็มองไม่เห็นคนเลย เคยนั่งทับเก้าอี้ที่มีคนนั่งอยู่ เพราะมองไม่เห็น คุณแม่ต้องจูงเอา ซึ่งเป็นมาได้ประมาณ 1 เดือนก่อนมีอาการอื่น ๆ กำเริบ ตอนนั้นก็ได้ไปหาหมอ แต่หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ให้หยอดตา และแค่ให้วิตามินมาทานเท่านั้น

เปิดใจคุณแม่น้องน้ำหนึ่ง

          หลังจากเริ่มมีอาการตาพร่ามองไม่เห็นมาช่วงหนึ่ง น้องน้ำหนึ่ง ก็บอกคุณแม่ว่าอาการเริ่มดีขึ้น มองเห็นชัดขึ้นแล้ว ซึ่งก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แต่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม น้องน้ำหนึ่งไปตรวจที่โรงพยาบาลพบว่ามีเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด แพทย์จึงให้ยาฆ่าเชื้อมา เมื่อน้องทานยาไปแล้วน้องก็บอกว่ารู้สึกอาการดีขึ้น จึงได้เดินทางไปทำงานต่อที่จังหวัดพิจิตร กระทั่งงานเสร็จในตอนกลางคืนกำลังจะกลับเข้าที่พัก จู่ ๆ น้องก็ร้องขึ้นมาสุดเสียง แล้วบอกว่ารู้สึกเจ็บปวดเหมือนใจจะขาด ปวดจนทนไม่ไหว ทั้งที่ปกติเป็นคนที่อดทนเก่งมาก ทางทีมงานจึงได้พาส่งโรงพยาบาลที่พิจิตร แพทย์ก็ได้ให้ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ แต่ไม่มีผล จึงได้พาน้องไปเอกซ์เรย์แล้วพบลักษณะคล้ายก้อนเล็ก ๆ อยู่ใต้ปอด แพทย์จึงฉีดมอร์ฟีนให้แก้ปวด กระทั่งน้องรู้สึกดีขึ้น และขอกลับไปทำงานต่อ เพราะมีงานโชว์ตัวอยู่ พร้อมกับสั่งเพื่อน ๆ อย่าบอกเรื่องนี้ให้คุณแม่ทราบ เพราะกลัวคุณแม่เป็นห่วง

          หลังจากทำงานเสร็จ คุณแม่ก็ไปรับน้องน้ำหนึ่งที่จังหวัดพิจิตร และพาเข้าโรงพยาบาลตรวจร่างกาย พบว่าน้องมีค่าออกซิเจนต่ำ และซีด แพทย์จึงให้ออกซิเจนและให้เลือดด้วย เมื่อเอกซเรย์ปอด และทำซีทีสแกน ก็ตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 11 เซนติเมตร ซึ่งใหญ่เกือบครึ่งปอดแล้ว และมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงมาก แพทย์ได้แจ้งให้ทำใจไว้ด้วย และนัดเจาะชิ้นเนื้อเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน แต่คุณแม่เห็นว่าเวลานานเกินไป และกลัวลูกจะไม่ไหว จึงได้ลองปรึกษาคุณหมออีกทีหนึ่ง และได้เจาะชิ้นเนื้อเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน

เปิดใจคุณแม่น้องน้ำหนึ่ง

          อย่างไรก็ตาม หลังจากเจาะชิ้นเนื้อครั้งแรกแล้ว ผลออกมาไม่ชัด ดูไม่ได้ แพทย์จึงขอเจาะชิ้นเนื้อใหม่ไปย้อมสีพิเศษ และแจ้งให้ทราบคร่าว ๆ ว่ามีโอกาสจะเป็นมะเร็งนะ แต่คุณแม่ก็พยายามจะไม่เชื่อ เพราะเห็นว่านี่เป็นแค่การสันนิษฐานยังไม่ได้ผลตรวจจริง ๆ ทางแพทย์จึงแจ้งว่าต้องรอผลตรวจอีกประมาณ 3 สัปดาห์ โดยจะตามมาให้เร็วที่สุด แต่ระหว่างที่น้องน้ำหนึ่งรอผลตรวจ อาการของน้องก็ทรุดลงทุกวัน ทำฟิล์มเอกซ์เรย์ทุกวัน และต้องฉายแสง เพราะก้อนในปอดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว จึงต้องฉายแสงสกัดไว้ก่อนที่จะรู้ผล

          คุณแม่บอกว่าช่วงที่น้องป่วยนั้น คุณแม่ไม่ได้บอกน้องเลยว่าน้องเป็นอะไร เพราะน้องเป็นคนคิดมาก ถ้าเครียดแล้วจะเบรกตัวเองไม่อยู่ จึงบอกแค่ว่าน้องเป็นเนื้องอกที่ปอดแค่นั้น ฉายแสง 10 ครั้งเดี๋ยวก็หาย ซึ่งน้องน้ำหนึ่งก็ได้ถ่ายคลิปบอกพี่ ๆ ทีมงานรายการไปว่า น้องไม่ได้เป็นอะไรมาก ฉายแสง 10 ครั้งก็หาย ออกไปรับงานได้เหมือนเดิมแล้ว

          อย่างไรก็ตาม การฉายแสงนั้นไม่ใช่นึกจะทำก็ทำได้ เพราะต้องรอดูผลตอบสนองด้วยว่า หากฉายแสงไปแล้วเซลล์จะลดขนาดลงบ้างไหม แต่ก็กังวลอยู่ว่าระหว่างที่รอนั้น น้องจะไหวอยู่ไหม กระทั่งฉายแสงไปได้ 4 ครั้ง จนถึงวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม แพทย์มาแจ้งว่าจะต้องทำซีทีสแกนวันจันทร์นะ เพื่อจะดูว่าก้อนเนื้อยุบไหม แต่ระหว่างที่รอนั้น อาการของน้องทรุดหนักแล้ว เพราะเหนื่อยมาก น้องพูดบ่อย ๆ ว่าหนูไม่ไหวแล้ว คุณแม่จึงพูดกระตุ้นให้กำลังใจน้องให้อดทน ให้อยู่ต่อไปเพื่อดูแลคุณแม่ ทำให้น้องน้ำหนึ่งมีกำลังใจจะสู้ต่อไป

เปิดใจคุณแม่น้องน้ำหนึ่ง

น้ำหนึ่ง ณมน

น้ำหนึ่ง ณมน

          จากนั้นในวันเสาร์ คุณแม่ตั้งใจไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ยังไม่ทันได้พบคุณหมอ น้องน้ำหนึ่งก็โทรศัพท์มาบอกว่า "คุณแม่ขา หนูจะไปแล้วนะ หนูไม่ไหวแล้ว คุณแม่ให้หนูไปนะ" คุณแม่จึงบอกให้น้องอดทน ต้องทนให้ไหว เมื่อวางสาย คุณแม่ก็เข้าพบคุณหมอ เพราะยังมีความหวังว่าจะต้องรักษาได้ และยังเชื่อว่าก้อนเนื้อนั้นไม่ใช่เนื้อร้าย เพราะผลการตรวจยังไม่ออก โดยทำใจไว้ 50% และหวังปาฏิหาริย์อีก 50%

          แต่เมื่อคุณหมอศิริราชเห็นฟิล์มเอกซเรย์และข้อมูลแล้ว ก็ได้แต่บอกว่าเป็นเซลล์มะเร็งที่ไม่ค่อยได้พบ และรักษาไม่ได้ เพราะเป็นมะเร็งชนิดที่โตเร็วที่สุด ดุที่สุด ไม่ตอบสนองต่อการฉายแสง หรือเคมีบำบัดใด ๆ ทั้งสิ้น เหมือนกับที่แพทย์วชิรพยาบาลแจ้งให้คุณแม่ทราบ ได้ยินดังนั้น คุณแม่จึงต้องยอมเชื่อ จึงกลับไปหาลูกสาวที่โรงพยาบาล ตอนนั้นน้องยังมีสติอยู่ แต่เหนื่อยมากและนอนอย่างเดียว

          "คุณแม่ไม่อยากเชื่อ เพราะมันเร็วมาก เขาไม่เปิดโอกาสให้เราได้รักษาเขาเลย มันเร็วเกินไป ได้ถามคุณหมอแล้วว่าไม่มีทางรักษาเลยหรือ ผ่าตัดก็ไม่ได้เหรอคะ แต่คุณหมอก็บอกว่าเพราะก้อนนี้ไปหุ้มหลอดเลือดหัวใจที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดดี ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ ฉายแสงก็ไม่ได้ เคมีก็ไม่ได้ จึงได้ถามคุณหมอไปว่าลูกของหนูจะไม่ได้กลับบ้านใช่ไหมคะ คุณหมอก็ปลอบใจบอกให้รอดูก่อนนะ"

เปิดใจคุณแม่น้องน้ำหนึ่ง

          ระหว่างที่คุณแม่คุยกับคุณหมออยู่นั้น ลูกสาวก็นั่งรออยู่ข้างนอก และสงสัยว่าตัวเธอเองเป็นอะไร แต่คุณหมอก็บอกแค่ว่าน้องเป็นแค่เนื้องอกธรรมดาเท่านั้น ปลอบใจไม่ให้กังวล และให้ทำใจให้สบาย แต่หลังจากนั้นน้องก็เริ่มสงสัยแล้ว เพราะคุณแม่คุยกับญาติ ๆ และคุณหมอบ่อยครั้ง กระทั่งวันจันทร์ น้องจะต้องทำซีทีสแกน แต่สภาพของน้องไม่ไหว ไม่สามารถทำซีทีสแกนได้อีกแล้ว ทางคุณหมอได้แจ้งว่า "น้องจะอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 วัน"

          "คำพูดนี้ทำให้คุณแม่ช็อกมาก แต่วินาทีนั้นยังไงคุณแม่ก็ไม่เชื่อ พยายามคิดว่าจะใช้วิธีไหนก็ได้ต้องรักษาน้องให้ได้ ไม่ว่าจะทางโลก หรือทางธรรม คุณแม่เอาหมด สองวันสุดท้ายคุณแม่ไม่หยุดนิ่งเลย ไปทั้งโรงพยาบาล ไปทั้งวัด เพื่อหวังจะให้เกิดปาฏิหาริย์ให้ได้" คุณแม่พูดด้วยความเชื่อมั่น และความหวังว่าลูกสาวจะต้องหายดี

          แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าโรคร้ายจะคร่าชีวิตน้องน้ำหนึ่งที่กำลังโลดแล่น และมีอนาคตที่สดใส ไปจากคุณแม่ ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเศษ ๆ เท่านั้น ติดตามการเปิดใจครั้งสำคัญของคุณแม่ผู้ต้องสูญเสียลูกสาวที่จากไปอย่างกะทันหันต่อได้ในรายการเจาะข่าวเด่น วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 เวลา 17.15 น. ทางช่อง 3





น้ำหนึ่ง ณมน

น้ำหนึ่ง ณมน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หัวอกแม่เปิดใจนาทีชีวิตน้องน้ำหนึ่ง ก่อนจากไปอย่างไม่มีวันกลับ โพสต์เมื่อ 18 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:57:36 15,171 อ่าน
TOP