สาวนอร์เวย์ซวย แจ้งความว่าถูกข่มขืน แต่ตำรวจจับเข้าคุก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

สาวนอร์เวย์ซวย แจ้งความว่าถูกข่มขืน แต่กลับถูกตำรวจจับเข้าคุก 16 เดือน พร้อมยัดข้อหามีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแจ้งความเท็จ

วันที่ 17 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า หญิงสาวชาวนอร์เวย์ วัย 25 ปีรายหนึ่ง ถูกตำรวจดูไบตัดสินโทษจำคุกนาน 16 เดือน หลังจากที่เธอได้ไปแจ้งความต่อตำรวจดูไบในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าเธอถูกข่มขืน แต่พวกตำรวจไม่เชื่อเธอ แถมยังยึดหนังสือเดินทาง และตั้งข้อหาเธอในฐานมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแจ้งความเท็จ ก่อนจับเธอเข้าคุกในทันที

อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในคุก 1 วัน เธอก็ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ได้ และด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัว ในที่สุดสถานกงสุลนอร์เวย์จึงเข้ามาเจรจาต่อรองให้ทางตำรวจดูไบปล่อยตัวเธอออกมา และให้เธออยู่ภายใต้ความคุ้มครองของโบสถ์ทหารเรือชาวนอร์เวย์ จนกว่าการพิจารณาคดีของเธอจะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้

ด้านบาทหลวงที่โบสถ์ดังกล่าวเผยว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่สำหรับเธอ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศที่กระบวนการยุติธรรมนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายอิสลาม แต่อย่างไรก็ตามประเทศนอร์เวย์ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อดูไบอยู่ ดังนั้นอนาคตของเธอจึงยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด

สำหรับการตัดสินโทษจำคุกต่อหญิงสาวที่เข้าแจ้งความว่าถูกข่มขืนในดูไบนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ หญิงสาวชาวออสเตรเลียรายหนึ่งที่ทำงานเป็นพนักงานโรงแรม ก็ได้ถูกตำรวจตัดสินให้จำคุกนาน 8 เดือนเช่นกัน เนื่องจากเธอเข้าไปขอความช่วยเหลือที่โรงพยาบาลหลังโดนเพื่อนร่วมงาน 3 คนรุมโทรม แต่โรงพยาบาลกลับส่งตัวเธอให้ตำรวจและถูกตั้งข้อหามีเพศสัมพันธ์นอกสมรสแทน

ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายอิสลามนั้น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ผ่านการสมรสนับเป็นข้อห้ามที่ร้ายแรง และการที่คู่รักซึ่งยังไม่ผ่านการสมรสกันจับมือกันในที่สาธารณะ พวกเขาก็ยังต้องถูกตัดสินให้จำคุก โดยสำหรับกรณีคดีข่มขืนนั้น กฎหมายจะเอาผิดต่อคนร้ายได้ก็ต่อเมื่อคนร้ายยอมสารภาพเอง หรือมีผู้ชาย 4 คนมาเป็นพยานในเหตุการณ์เท่านั้น ขณะที่ชาวต่างชาติซึ่งต้องโทษจำคุกในดูไบ เมื่อรับโทษจนครบหรือสิ้นสุดการลงโทษแล้ว ก็จะถูกเนรเทศออกนอกประเทศในทันที