x close

เปิดใจครอบครัว สมีคำ น้องชายยันเป็นตัวเองจริง พร้อมหลั่งน้ำตาขอโทษ













เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น โพสต์โดยคุณ  ThaiTVshowsHD สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          ครอบครัว สมีคำ เปิดใจใน รายการเจาะข่าวเด่น ยืนยันคนในรูปเป็นน้องชาย สมีคำ จริง หลั่งน้ำตาขอโทษพี่ชายและชาวพุทธทุกคน

          รายการเจาะข่าวเด่น (24 กรกฎาคม 2556) พูดคุยกับครอบครัวสมีคำ ประกอบด้วย นายสุริ สุขผล น้องชายคนที่ 5 ที่ออกมายอมรับว่าคนในภาพนอนกับสีกาเป็นตนเอง, นายชาญณรงค์ สุขผล พี่ชายคนที่ 2 และนายวิจารณ์ สุขผล เป็นพี่ชายคนที่ 3 โดยมีสมีคำเป็นคนที่ 4 และพี่ชายคนโตอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี


          ซึ่ง นายสุริ สุขผล เริ่มต้นด้วยการทำท่าทางเดียวกับในรูปภาพต้นเหตุ เพื่อให้เปรียบเทียบชัด ๆ พร้อมทั้งยืนยันว่าชายในภาพคือตนเอง แต่ที่เพิ่งออกมาเนื่องจากตนมีครอบครัว จึงไม่อยากให้มีปัญหา ไม่อยากให้ครอบครัวเสียใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองก็อาศัยอยู่ที่บ้าน อ.ทรายมูล จ.ยโสธร ส่วนพี่ชาย หรือ สมีคำ อาศัยอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม จ.อุบลราชธานี

          ทั้งนี้ นายสุริ สุขผล ยืนยันว่า ภาพดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยในภาพตนกำลังเมาสุรา และอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งรู้จักกับผู้หญิงคนในภาพจากการพบเจอในวัด ขณะที่ตนเองบวชเณร โดยฝ่ายหญิงส่งสายตาหาตนเอง จึงมีการติดต่อและไปนอนด้วยกันในที่สุด ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นคนดื้อ จึงชอบและออกไปเที่ยวซุกซน ด้วยการนำรถของสมีคำขับออกไปเจอกัน เพราะตนเองเป็นคนล้างรถให้พี่ชาย จนกระทั่งฝ่ายหญิงถ่ายภาพและโพสต์รูปดังกล่าวลงในอินเทอร์เน็ต แต่ตนเองก็จำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้ เพราะอยู่ในอาการมึนเมา

           เมื่อมีการสอบถามถึงรอยบนใบหน้าของชายในรูปที่ดูแตกต่างจาก นายสุริ เจ้าตัวและพี่ชายอีก 2 คน ยืนยันว่า เป็นเพียงรอยสิวสมัยหนุ่ม ๆ เท่านั้น ซึ่งช่วงวัยรุ่นก็มีสิวกันทุกคน ส่วนใบหูที่ดูหยักแตกต่างจากในรูป เป็นเพราะตนเองอ้วนขึ้น อีกทั้งก็มีอายุมากขึ้นด้วย แม้ดีเอสไอบอกว่าจะดำเนินคดีหากมีการแจ้งความเท็จตนก็ไม่กลัว เพราะยืนยันว่าเป็นตัวเองจริง ๆ

          นอกจากนี้ นายสุริ ยังหลั่งน้ำตากล่าวความรู้สึกของตนเองว่า ขอโทษพี่ชายที่ทำให้เดือดร้อน และขอโทษชาวพุทธที่ทำตัวผิดพลาด จนศาสนาเสื่อมเสีย ที่ตนเองเกเรตั้งแต่เด็ก ตนจึงขอโทษในความผิดทั้งหลายที่ทำให้ชาวโลกประณามในสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษที่ทำให้เป็นเรื่องบานปลาย จนกระทั่งพี่ชายไม่สามารถกลับเข้าประเทศได้ และตนก็อยากให้มีฝ่ายยุติธรรมช่วยคุ้มครองพี่ชาย เพราะตนเองเป็นคนทำให้พี่ชายเสียหาย จนตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่สบาย มีคนมาข่มขู่ที่บ้าน ว่าจะถูกยึดบ้าน

          นายวิจารณ์ สุขผล จึงเสริมว่า มีการโทรเข้ามาข่มขู่ครอบครัวตนถึงที่บ้าน โดยอ้างเป็นลูกน้องพันโทคนหนึ่ง ขอให้โอนเงิน 5 แสนให้เพื่อปิดคดีดังกล่าว โดยมีหลักฐานเป็นเลขบัญชี ทั้งยังมีการข่มขู่ว่าจะยึดบ้านด้วย

          ส่วนกรณีสร้างบ้านหลังใหญ่ให้หญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งพ่อของฝ่ายหญิงออกมาบอกว่าคนที่มีสัมพันธ์กับลูกสาวตนเองไม่ใช่นายสุริ แต่เป็นสมีคำ นายสุริ ก็ยืนยันว่าเป็นตนเองอีกเช่นกัน เนื่องจากตนเองเกเร ไปคบหากับหญิงสาวคนดังกล่าว พี่ชายจึงคิดสร้างเรือนหอเอาไว้ให้โดยให้เงินจำนวน 4 แสน เพื่อนำไปสร้างเป็นเรือนหอ แต่เมื่อคบหากันได้ 3 เดือน ตนก็เจอคนใหม่ จึงเลิกรากันไป ไม่ได้สร้างบ้านต่อ เมื่อพิธีกรจี้ถามว่าเงิน 4 แสนเป็นเงินของใคร และสมีคำเอาเงินมาจากไหน นายสุริก็ตอบว่าเป็นเงินส่วนตัวที่พี่ชายเก็บเอาไว้จากการออกกิจนิมนต์บ้าง และที่พ่อของฝ่ายหญิงบอกว่าไม่ใช่ตนเอง ก็คาดว่าอาจมีการสับสนเกิดขึ้นได้

          สำหรับกรณีบ้านหรูหลังใหญ่ของสมีคำ ทางพี่ชายบอกว่าเป็นบ้านที่มีอยู่แล้ว แต่ปรับปรุงต่อเติมขึ้นมาเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หรูหราอย่างที่เข้าใจ โดยท้าให้ไปดูบ้านก่อนว่าไม่ได้ใหญ่โตมากอย่างที่คิด อย่าดูจากในภาพ ส่วนเงินที่นำมาสร้างยืนยันว่าเป็นเงินจากญาติธรรม ไม่ใช่เงินของสมีคำแต่อย่างใด


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดใจครอบครัว สมีคำ น้องชายยันเป็นตัวเองจริง พร้อมหลั่งน้ำตาขอโทษ โพสต์เมื่อ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 19:42:50 3,712 อ่าน
TOP