x close

คมนาคม เล็งห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นวิ่งระยะไกล หากตรวจพบอันตรายจริง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์



          คมนาคม สั่งขนส่งฯ ทบทวนกฎหมายคุมเข้มคนขับรถบรรทุก เล็งยกเลิกรถทัวร์ 2 ชั้นวิ่งทางไกล หากตรวจสอบพบอันตรายจริง ด้านศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ตรวจรถทัวร์ พบอุปกรณ์ในรถเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เผย ผู้โดยสารส่วนหนึ่งหนีออกมาไม่ได้เพราะบาดเจ็บ และเปิดประตูรถไม่ได้ เพราะคนขับเสียชีวิตหมด ขณะที่นิติเวชพิสูจน์บุคคลได้แล้ว 17 ศพ ยังเหลืออีก 2

          เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้เรียกผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) กรมเจ้าท่า (จท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประชุมถึงสาเหตุและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ กรณีรถพ่วง 18 ล้อชนกับรถโดยสารของ บ.ข.ส. ที่ถนนมิตรภาพ กม.ที่ 19 ของวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บ 22 คน

          โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสาเหตุเป็นเพราะคนขับรถบรรทุกหลับใน จึงสั่งให้กรมการขนส่งทางบกไปทบทวนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกทั้งหมด โดยต้องไปดูปัญหา เช่น การต่อใบขับขี่ให้คนขับรถทุก 3 ปีนั้นเหมาะสมหรือไม่ หรืออาจต้องให้มีการตรวจสุขภาพและสารเสพติดในตัวคนขับรถเพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มบทลงโทษเจ้าของรถหรือผู้ประกอบการด้วย เพราะถือว่าเป็นผู้คัดเลือกคนขับรถเข้ามา เป็นต้น

          "คนขับรถบรรทุกที่เกิดเหตุถือใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท 3 (รถพ่วงหรือเทรลเลอร์) ซึ่งจะต่อทุก 3 ปี โดยจะต้องเข้าอบรม 2 ชั่วโมง ส่วนการขับนั้นกฎหมายกำหนดขับ 4 ชั่วโมง พักครึ่งชั่วโมง โดย 1 วันขับได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาจุดพักรถบรรทุกอยู่ ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มให้มากขึ้นอีก ตอนนี้รถบรรทุกถือว่าเป็นปัญหามาก เพราะมีกว่า 8 แสนคัน การควบคุมคนขับทำได้ลำบาก ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการหรือเจ้าของต้องร่วมมือด้วย โดยจะต้องคัดกรองคนขับที่มีคุณภาพ ส่วนตัวรถบรรทุกนั้นจะตรวจสอบสภาพปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเข้มข้นน้อยกว่ารถโดยสารที่ต้องตรวจสอบสภาพปีละ 2 ครั้ง" นายชัชชาติ กล่าว

          อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ ยอมรับว่าที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมเน้นการควบคุมพนักงานขับรถสาธารณะเฉพาะหน่วยงานในสังกัด แต่คนขับรถบรรทุกเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน ทางกรมขนส่งทางบกจึงไม่ได้เข้าไปควบคุมอย่างใกล้ชิด

          ส่วนตัวรถโดยสารนั้น รมว.คมนาคม ได้สั่งให้ไปตรวจสอบมาตรฐานตัวรถ เนื่องจากพบว่าหลังเกิดอุบัติเหตุได้เกิดไฟไหม้ขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการใช้วัสดุประกอบรถที่ไม่เหมาะสมและเป็นวัสดุติดไฟง่าย เช่น โฟมกันความร้อน ผ้าม่าน เบาะผ้า สีตัวถังรถ สายไฟ น้ำยาแอร์บางชนิดติดไฟได้หรือไม่ หรือเผาไหม้แล้วทำให้เกิดควันพิษ โดยให้กรมขนส่งฯ รายงานกลับมาภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมไปศึกษามาตรฐานสากลเกี่ยวกับการใช้วัสดุในการมาประกอบเป็นอุปกรณ์ในตัวรถต้องเป็นวัสดุทนไฟ เพื่อกำหนดแนวทางในการนำมาใช้บังคับ โดยให้เวลาในการศึกษา 1 เดือน ควบคู่กับการพิจารณาหามาตรการลงโทษผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

          สำหรับประเด็นที่มีงานวิจัยระบุว่า รถโดยสาร 2 ชั้นเหมาะสมจะวิ่งระยะสั้นในเมืองมากกว่าทางไกล เพราะไม่มีความปลอดภัยนั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาเรื่องนี้เช่นกัน และพร้อมทบทวนไม่ให้รถโดยสาร 2 ชั้นวิ่งระยะไกล หากตรวจสอบแล้วพบว่ารถโดยสาร 2 ชั้น ทำให้ผู้โดยสารออกจากตัวรถยากกว่ารถชั้นเดียวตอนเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับสั่งให้แก้ไขปรับปรุงทางออกฉุกเฉินบนรถโดยสารชั้นบน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          สอดคล้องกับ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ที่ระบุว่า ประตูฉุกเฉินของรถโดยสารที่เกิดอุบัติเหตุนั้นอยู่สูงเกินไป ทำให้ผู้โดยสารไม่กล้ากระโดดหนีไฟลงมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง บขส. ได้เล็งเห็นปัญหานี้แล้ว จึงได้จัดหารถโดยสารแบบชั้นเดียวมาทดแทนรถเก่า 100 คัน และจะทยอยเปลี่ยนใช้รถชั้นเดียวเพิ่มเติม โดยปัจจุบัน บขส. มีรถโดยสาร 2 ชั้น จำนวน 447 คัน และรถโดยสารชั้นเดียว 400 คัน

รถทัวร์ร้อยเอ็ด ชนรถพ่วง


          ด้าน รศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐพงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ได้นำทีมงานเข้าตรวจสภาพรถบัส และรถพ่วงที่เกิดอุบัติเหตุ พบว่า เมื่อรถพ่วงข้ามเกาะมาชนรถบัส ทำให้แบตเตอรี่ที่อยู่ใต้คอนโซลที่นั่งคนขับถูกกระแทกจนเกิดประกายไฟขึ้น และลุกลามเป็นไฟไหม้ เพราะอุปกรณ์ภายในรถ เช่น เบาะนั่ง คอนโซล ผนังกันความร้อนด้านบนหลังคา เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

          โดยจากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ไฟได้ลุกไหม้หลังเกิดเหตุไปแล้ว 10-20 นาที แต่กลับมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อาจเป็นเพราะผู้โดยสารไม่คาดคิดว่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้น หรือได้รับบาดเจ็บจากการชนอย่างรุนแรงจนไม่สามารถหนีออกมาได้ นอกจากนี้ ผู้โดยสารก็ไม่สามารถเปิดประตูไฮดรอลิกเองได้ เพราะคนขับเสียชีวิตทั้งคู่ อีกทั้งพนักงานประจำรถที่นั่งอยู่เบาะท้ายด้านบนก็ได้รับบาดเจ็บ

          อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารส่วนหนึ่งรอดมาได้เพราะประตูที่อยู่กลางตัวรถเปิดออกเอง หลังจากถูกชนอย่างแรง อีกส่วนหนึ่งได้ทุบกระจกประตูฉุกเฉินที่อยู่ด้านหลังฝั่งขวามือแล้วกระโดดออกมาจากรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสารที่นั่งชั้นล่างมีอยู่ 6 คน รอดชีวิตมาเพียงคนเดียว ส่วนผู้โดยสารชั้นบนนั้น คนที่นั่งเบาะด้านขวาซึ่งเป็นเบาะคู่เสียชีวิตหลายคน เพราะเบาะหลุดออกหมด ส่วนคนที่นั่งด้านซ้ายที่เป็นเบาะเดี่ยวส่วนใหญ่ปลอดภัย เพราะเบาะยังยึดติดอยู่กับตัวรถ

          ทั้งนี้ รศ.ดร.กัณวีร์ ได้เสนอให้รถทัวร์เพิ่มประตูฉุกเฉินให้มากขึ้น และกว้างกว่านี้ โดยควรมีประตูฉุกเฉินด้านบนด้วย เผื่อรถพลิกคว่ำ และควรให้พนักงานประจำรถแนะนำการใช้ประตูฉุกเฉิน รวมทั้งอุปกรณ์นิรภัยต่าง ๆ เพื่อที่ผู้โดยสารจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ เห็นได้จากกรณีนี้ที่คนขับ 2 คนเสียชีวิต พนักงานประจำรถก็บาดเจ็บ ส่วนหนึ่งจึงออกมาจากรถไม่ได้

          ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีญาติของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมาติดต่อรับศพ 18 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ศพได้แล้ว 17 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 7 ราย เหลือ 2 รายเป็นหญิง ยังไม่สามารถยืนยันเอกลักษณ์บุคคลได้ โดยคนหนึ่งรอตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ อีกคนญาติยังไม่มาติดต่อ

          จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นวินาศกรรมเเบบปิดที่มีรายชื่อและรู้จำนวนศพที่แน่นอน รวมทั้งมีพยานยืนยันผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยแพทย์ได้มีการเก็บหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทั้งประวัติการทำฟัน และดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตกับญาติทุกรายเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตพบว่า 9 รายเสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บก่อนถูกไฟคลอก ส่วนอีก 10 รายเสียชีวิตหลังจากไฟไหม้ เนื่องจากมีการสำลักควัน

          พล.ต.ต.พรชัย ยังกล่าวด้วยว่า ทางสถาบันนิติเวชได้ทำการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับรถด้วย คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 วัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าแพทย์ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เชื่อว่าจะสามารถส่งศพให้ญาติได้ถูกต้อง





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คมนาคม เล็งห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นวิ่งระยะไกล หากตรวจพบอันตรายจริง อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 15:29:23 2,800 อ่าน
TOP