เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก coolweirdo.com
ทีมนักโบราณคดีขุดค้นพบซากฟอสซิลหางไดโนเสาร์ที่เม็กซิโก ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ คาดอายุกว่า 72 ล้านปี
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ทีมนักโบราณคดีขุดค้นพบซากฟอสซิลกระดูกชิ้นส่วนหางของไดโนเสาร์ยาวกว่า 5 เมตร ในเขตพื้นที่ทะเลทรายทางตอนเหนือ ของรัฐโกอาวีล่า ประเทศเม็กซิโก เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 72 ล้านปี
รายงานระบุว่า ทีมงานประกอบด้วยนักโบราณคดีจากสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ เม็กซิโก (ไอเอ็นเอเอช) และมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก ใช้เวลา 20 วัน ค่อย ๆ เซาะตะกอนหินในทะเลทรายออก และพบว่าโครงสร้างกระดูกที่ค้นพบมีสภาพสมบูรณ์อย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากถูกทับถมโดยทราย ทำให้เหมือนกับถูกเก็บรักษาไว้ให้คงสภาพ โดยไดโนเสาร์ที่ขุดพบเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ Hadrosaur ยาวประมาณ 4.5 เมตร มีกระดูกสันหลังจำนวน 50 ชิ้น
ทางด้าน ฟรานซิสโก อากิลาร์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็นเอเอช เปิดเผยว่า นอกจากหางของไดโนเสาร์ที่ถือว่าหายากมากแล้ว ทีมขุดค้นยังพบซากกระดูกสะโพกของมัน รวมถึงซากกระดูกของสัตว์อื่น ๆ อีกด้วย การขุดพบครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้เข้าใจไดโนเสาร์วงศ์นี้มากขึ้น อีกทั้งยังนำไปสู่การไขปริศนาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่กัดกินกระดูกไดโนเสาร์กระจ่างขึ้นไปอีก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่เกิดในมนุษย์ โดยก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุไปแล้วว่าไดโนเสาร์จำนวนมากได้รับความทุกข์ทรมานจากเนื้องอกและภาวะข้อต่ออักเสบเล่นงาน
ทั้งนี้ สำหรับการค้นพบร่องรอยของซากไดโนเสาร์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวขุดค้นพบ และได้รายงานต่อสถาบันไอเอ็นเอเอชตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2555 แต่เพิ่งจะมีการดำเนินการสำรวจและขุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยซากหางดังกล่าวจะถูกส่งไปยังเทศบาลเมืองเจเนอรัลเซเพดา เพื่อทำความสะอาดและทำการศึกษาขั้นต่อไป