เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เวียดนามเตรียมออกกฎห้ามไม่ให้ประชาชนแชร์หรือโพสต์ข่าวสารทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยจะอนุญาตให้โพสต์ได้แค่ข้อมูลส่วนตัวเท่านั้น
รายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีเวียน เติ๋น วุ๋ง ของเวียดนาม ได้ลงนามแถลงการณ์เผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวเวียดนามไม่ควรใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ ในการแชร์หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ประจำวัน และจะไม่อนุญาตให้นำข้อความจากหนังสือพิมพ์ สำนักข่าว หรือเว็บไซต์ทางการ ไปเผยแพร่แชร์ต่อกันไปในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่จะอนุญาตให้ประชาชนใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อโพสต์เรื่องราวส่วนตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ไม่มีการชี้แจงเหตุผลว่าเหตุใดจึงมีการออกกฎห้ามไม่ให้ประชาชนส่งต่อข่าวสารเช่นนี้ แต่ชาวเน็ตเวียดนามหลายคนก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามจะทำให้การแชร์ลิงก์ หรือข่าวสาร รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ข่าวสารต่าง ๆ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะมีการบังคับใช้ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งนอกจากจะห้ามไม่ให้ประชาชนแชร์ข่าวสารบนโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว ยังห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต่างชาติ เผยแพร่ข้อมูลที่มีเนื้อหาต่อต้านเวียดนาม, ลดทอนความปลอดภัย ความสามัคคี และระเบียบของชาติ, เรียกร้องให้มีการประท้วง และการบิดเบือน กล่าวร้ายทำลายชื่อเสียงของชาติ
ด้านนายเล นาม ถั่ง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ ได้เปิดเผยว่า กฎหมายใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้โซเชียลเน็ตเวิร์กในเวียดนาม เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กสีขาว ช่วยให้ผู้ใช้งานรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว โดยนายเหวียน กว่าง วิงห์ บล็อกเกอร์รายหนึ่งที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ได้เปิดเผยว่า กฎหมายนี้บัญญัติขึ้นมาเพื่อปิดปากประชาชนโดยแท้ ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายได้เปิดเผยไปในทางเดียวกันว่า รัฐบาลต้องการให้ชาวเวียดนามกลายเป็นหุ่นยนต์
