ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ยันสารเคมีกำจัดคราบน้ำมันรั่ว ระยอง ไม่กระทบพันธุกรรมสัตว์น้ำ ชี้ยังไม่สามารถสรุปความเสียหายได้ เนื่องจากต้องใช้เวลาสำรวจผลกระทบอีกนาน
วันที่ 2 สิงหาคม 2556 นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันรั่ว ในพื้นที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะยังต้องมีการเก็บกู้คราบน้ำมันที่หลงเหลือให้เรียบร้อย ถึงแม้ว่าทางกายภาพจะเก็บกู้ไปแล้วกว่าร้อยละ 90 แต่ทั้งนี้ ต้องดูผลกระทบและเก็บสารตกค้างไปสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูอย่างตรงจุด ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน เพราะต้องสำรวจความเสียหายตั้งแต่จุดที่น้ำมันรั่วจนถึงบริเวณโดยรอบที่คราบน้ำมันลอยไปติดอยู่
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า สำหรับสารเคมีที่ทางบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ใช้นั้น คือ "ซิลิคกอน" (Slickgone NS Type 2/3) ซึ่งเป็นสารที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดว่าอนุญาตให้ใช้ได้ และขอยืนยันว่าสารดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของบริษัท พีทีที โกลบอลฯ ขอใช้สารซิลิคกอนจำนวน 5,000 ลิตรก่อนหน้านี้ ทราบมาว่าไม่สอดคล้องกับปริมาณที่ใช้จริงกว่า 30,000 ลิตร อีกทั้งยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ปริมาณน้ำมันรั่วอาจจะมากกว่า 50,000 ลิตร ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทพีทีที โกลบอลฯ สามารถชี้แจงรายละเอียดของปริมาณการใช้สารเคมีภายหลังได้ แต่ในส่วนของการฟ้องร้องค่าเสียหายนั้น เป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าโดยตรง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
