สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ส.ส.ประชาธิปัตย์ งง ประธานสภาฯ-เลขาฯ ถลุงงบ จัดซื้อนาฬิกา 200 เรือน ตกเรือนละ 7.5 หมื่น แถมติดแอร์ในห้องเก็บขยะเฉย เตรียมยื่น กมธ. สอบ ด้านเลขาฯ สภา รีบแจง ไม่ใช่แอร์ แต่เป็นเครื่องดูดอากาศที่รูปลักษณ์คล้ายแอร์
วันนี้ (5 สิงหาคม 2556) นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เตรียมจะยื่นเรื่องให้ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หลังจากได้รับร้องเรียนว่าทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมส่อว่าน่าจะไม่สุจริต และประพฤติมิชอบ 4 ประการ
โดย นายวิลาศ ระบุว่า นายสมศักดิ์ ได้เดินทางไปเยือนต่างประเทศ โดยไม่มีการเซ็นรับรองค่าใช้จ่ายภายใน 15 วันหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ข้าราชการสภาที่มีหน้าที่รับผิดชอบถูกลงโทษ รวมทั้งการใช้วิธีพิเศษจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงอาคารสถานที่บริเวณรัฐสภา ทำให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณเกรงใจไม่กล้าตรวจสอบ ทั้งที่อาจจะมีการจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่แพงเกินจริง นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ใช้งบประมาณว่าจ้างร้านดอกไม้มาจัดดอกไม้ต้อนรับสมาชิกสภาเวียดนาม ในราคาถึง 2.8 แสนบาทต่อการต้อนรับเพียง 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม นายวิลาศ ยังบอกด้วยว่า ที่สำคัญก็คือ พบว่าสภาฯ ใช้งบประมาณถึง 15 ล้านบาท มาจัดซื้อนาฬิกายี่ห้อหนึ่งจำนวน 200 เรือน คิดแล้วตกราคาเรือนละ 75,000 บาท และเป็นนาฬิการุ่นที่ปัจจุบันไม่มีขายแล้ว จึงน่าสงสัยว่ามีการสั่งให้ผลิตเลียนแบบหรือไม่ และเหตุใดราคาจึงสูงขนาดนี้ แต่ที่แปลกที่สุดและไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนก็คือ สภาฯ ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ภายในห้องเก็บขยะด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลย ด้วยเหตุนี้ ตนจึงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กมธ. ในวันที่ 8 สิงหาคม เพื่อให้ทั้งสองคนเข้ามาชี้แจงต่อไป
ขณะที่ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้ทราบเรื่องนี้ ก็ได้ชี้แจงทันทีว่า โครงการจัดซื้อนาฬิกานั้นเป็นโครงการที่ตั้งมาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไว้เรียบร้อยแล้วทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาที่จัดซื้อนั้นเป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดของทวีปยุโรป และจะนำไปติดตามห้องประชุมคณะกรรมาธิการต่าง ๆ จึงได้จัดซื้อถึง 200 เรือน เพื่อให้ ส.ส. และ ส.ว. ได้ใช้ดูเวลา
ส่วนการที่นายวิลาศระบุว่ามีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในห้องขยะนั้น นายสุวิจักขณ์ ปฏิเสธว่าไม่จริง เพราะแท้จริงแล้วเป็นเพียงเครื่องดูดอากาศ แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเหมือนกับเครื่องปรับอากาศก็ตาม ยืนยันว่า งบจัดซื้อจังจ้างในสภาฯ ไม่ได้แพงเกินจริง เพราะเป็นโครงการที่ตั้งเอาไว้ตั้งนานแล้ว หากไม่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ ก็จะต้องส่งคืนคลัง และทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
