เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)
ครม. ผ่าน 4 แผน กว่า 20 มาตรการ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อจีดีพีโตเพิ่มได้ 1%
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการทั้งหมด 20 มาตรการ รวม 4 ด้าน เพื่อรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง โดยเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวได้ครบทั้งหมด จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างน้อย 1%
สำหรับมาตรการทั้งหมด แบ่งเป็น 4 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการด้านการบริโภคภาคเอกชน มาตรการด้านการลงทุนของภาคเอกชน มาตรการด้านการใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการด้านการส่งออก ครอบคลุม 10 มาตรการใหญ่ และกว่า 20 มาตรการย่อย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
.gif)
1. มาตรการด้านการบริโภคภาคเอกชน คือ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดสัมมนาในประเทศ ให้นิติบุคคลสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าในปีภาษี 56-57 และมาตรการสนับสนุนให้ผู้บริโภคใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน โดยจัดมหกรรมสินค้าประหยัดพลังงานราคาถูก
2. มาตรการด้านการลงทุนของภาคเอกชน คือ มาตรการภาษีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ลงทุนซื้อหรือซ่อมแซมทรัพย์สิน เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะ สามารถหักค่าเสื่อมได้ 50% ของมูลค่าทรัพย์สินในปีแรก และส่วนที่เหลือทยอยหักในระยะเวลา 5 ปี, มาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ระยะที่ 2, มาตรการสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรที่เป็นทั้งอาหารและพลังงานนอกจากนี้ยังรวมถึงมาตรการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รายเล็ก และรายย่อย คือ มาตรการสินเชื่อและค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม, มาตรการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการโอทอป และวิสาหกิจชุมชน และมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย
3. มาตรการด้านการใช้จ่ายภาครัฐ คือ มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในปีงบ 56 แบ่งเป็น เร่งรัดการเบิกจ่ายงบพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด, เร่งรัดการเบิกจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเร่งรัดการเบิกจ่ายของกองทุนนอกงบประมาณ เช่น กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กองทุนเอสเอ็มแอล กองทุนเศรษฐกิจพอเพียง กองทุนพัฒนาสตรี กองทุนตั้งตัวได้ และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ส่วนมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในปีงบ 57 แบ่งเป็น เตรียมความพร้อมใช้งบปี 57 โดยตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายสูงกว่าปีก่อน, เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายเหลื่อมปีของปีงบ 56, เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินรางวัลของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ปี 55 ให้สามารถจ่ายได้ภายในปี 56 และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบอบรมและสัมมนา ให้ส่วนราชการเร่งรัดเบิกจ่ายงบอบรมสัมมนาในประเทศให้ได้ไม่น้อยกว่า 50%
4. มาตรการด้านการส่งออก คือ การส่งออกสินค้าและการค้าสินค้าระหว่างประเทศ 3 มาตรการ ทั้ง การเร่งส่งเสริมการส่งออกสินค้าไปยังตลาดอาเซียน และมลฑลย่อยของประเทศจีน ,สนับสนุนการใช้เงินบาทค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ ผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวจากต่างชาติ 2 มาตรการ คือ จัดทำวีซ่าประเภทเข้าออกหลายครั้งที่มีระยะเวลาหลายปี ให้สามารถมีผลบังคับใช้ได้ก่อนฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญปลายปีนี้ และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอย โดยยกเว้นภาษีขาเข้าสินค้าที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
