เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ณัฐวุฒิ อัดประชาธิปัตย์ค้านสภาปฏิรูปการเมือง ทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหา ลั่นกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมร่วมวงถกสร้างปรองดอง
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหาว่า การเดินหน้าสภาปฏิรูปการเมือง ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องไร้ประโยชน์นั้น ตนอยากจะถามกลับไปว่า แล้วการที่ ปชป. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายต่อหลายชุด ในการปฏิรูปประเทศไทย ในสมัยที่ยังเป็นรัฐบาลอยู่นั้นทำเพื่ออะไร จึงอยากจะให้เอาเรื่องนี้กลับไปทบทวนให้ดี ๆ ก่อนที่จะมาว่าคนอื่น
หาก ปชป. มีความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประเทศจริง ก็ไม่น่าจะแสดงการขัดขวาง ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา โมโหร้ายตลอดเวลา อะไร ๆ ก็ปฏิเสธหมด คิดเพียงแต่จะล้มรัฐบาล แล้วขึ้นมาแทนที่ให้เร็วที่สุดเท่านั้น จึงป่วยการที่จะไปพูดคุยกับบุคคลเหล่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ที่ถือว่าเป็นปูชณียบุคคลของพรรค กลับตอบรับเข้าร่วมสภาปฏิรูป ซึ่งตนมองว่านายพิชัยยังมีสติสัมปชัญญะดีเยี่ยม ไม่ใช่คนแก่หูตึง เหมือนเด็กหูตึงอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. และชาวคณะแก๊งไอติม ไม่ยอมฟังเสียงของสังคมว่าต้องการอะไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนการชวนกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมการสภาปฏิรูปนั้น ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้คุยกับพรรคพวก แต่เชื่อว่าทุกคนที่ได้รับเชิญจะยินดีตอบรับ และตนในฐานแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ และถ้าหากว่า คู่ขัดแย้งอย่าง ปชป. ตอบปฏิเสธที่จะเข้าการสภาปฏิรูป ก็คงต้องแก้ปัญหาด้วยการรวบรวมเอาผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาพูดคุยกัน เพราะถ้ามัวแต่รอเด็กมีปัญหาก็คงทำให้ผู้ใหญ่ไม่ได้คุยกันสักที
สำหรับการการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เชื่อว่าการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะสามารถเดินหน้าไปได้ เพราะประเด็นที่ ปชป. กล่าวหา เราได้มีการชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีมาตรา 112 การยกเว้นแกนนำผู้สั่งการ เป็นต้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นเรื่องที่ กมธ. ต้องพิจารณาในชั้นแปรญัตติ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า หากจะให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ มานั่งเป็นคณะ กมธ. ในสัดส่วนของรัฐบาลนั้น ตนไม่ยอมรับ แต่ถ้าผ่านการเลือกตั้งของประชาชน เดินเข้าสภาอย่างถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตย ก็มีความถูกต้องที่จะร่วมกระบวนการรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พล.อ.สนธิ ได้ประกาศจะเดินหน้าในแนวทางปรองดอง ก็ถือว่าแนวทางดังกล่าว สามารถให้การสนับสนุนได้
ส่วนการที่ พล.อ.สนธิ เข้ามานั่งใน กมธ. โควตารัฐบาลถือเป็นการส่งสัญญาณความปรองดองที่ปรากฏชัด ขณะที่ฝาก ปชป. จะนำนายแก้วสรร อติโพธิ ที่ประกาศต่อต้านรัฐบาลอย่างชัด เข้ามาเป็นกรรมาธิการ ทำให้มองเห็นชัดเจนว่า ใครมีความคิดอย่างไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
