ปตท. เตรียมนำเข้า LPG 4 หมื่นตันต่อเดือน รับมือ LPG ขาด

แก๊สหุงต้ม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          หวั่น LPG ขาดส่ง ขอโรงกลั่นน้ำมัน ลดการจำหน่าย LPG แก่โรงปิโตรเคมี ใช้แนฟทาหรือน้ำมันแทน ด้านรองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เตรียมประชาสัมพันธ์การใช้สิทธิ์ซื้อ LPG ในราคาเดิมหลังปรับขึ้น

          จากกรณีโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 5 ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เกิดอุบัติเหตุฟ้าผ่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตเป็นเวลา 3-5 เดือน ซึ่งทาง ปตท. คาดมีก๊าซหุงต้มหรือ LPG หายจากระบบราว 7-7.5 หมื่นตันต่อเดือน คิดเป็น 25% ของกำลังการผลิตของประเทศ เตรียมหยุดส่ง LPG สู่ภาคปิโตรเคมี 30,000 ตันต่อเดือน หวั่นขาดแคลน LPG นั้น

          ล่าสุด วันที่ 18 สิงหาคม 2556 นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน เผยว่า จากการประชุมร่วมระหว่างกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขกรณีที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่าต้องขอความร่วมมือจากกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันให้ลดการจำหน่าย LPG แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และให้ใช้แนฟทา หรือน้ำมันแทน รวมทั้งให้กลุ่มโรงกลั่นปรับเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดิบประเภทที่สามารถผลิต LPG ได้เพิ่มขึ้น โดยทางภาคเอกชนจะไปพิจารณารายละเอียดและส่งข้อมูลตัวเลขแก่กระทรวงพลังงาน ในวันที่ 19 สิงหาคม 2556 นี้ ยอมรับกว่าการที่ประเทศต้องนำเข้า LPG เพิ่มอีก 4 หมื่นตันต่อเดือน เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมนั้น มีกระทบต่อฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะต้องจ่ายการนำเข้าเพิ่มขึ้นแต่จะเป็นเงินเท่าใดก็จะต้องมาดูก่อน

          ด้าน นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. และในฐานะประธานกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า โรงกลั่นน้ำมันทั้ง 6 แห่ง จะพิจารณาปรับเปลี่ยนน้ำมันดิบเพื่อให้ผลิต LPG เพิ่มขึ้น แต่ต้องใช้เวลา 2 เดือนในการดำเนินการ

          ขณะที่ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เผยว่า ปตท. กำลังเร่งรัดพิจารณาการซ่อมแซมให้โรงแยกก๊าซฯ ให้กลับมาเดินเครื่องผลิตเร็วที่สุด ส่วนก๊าซฯ ที่ส่งโรงไฟฟ้ายืนยันว่าไม่ขาดแคลนแน่นอน เพราะสามารถส่งตรงทางท่อจากแหล่งผลิตได้โดยตรง ส่วนผลกระทบปิโตรเคมีขณะนี้กำลังพิจารณาในภาพรวมว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร 

          ส่วน นายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ค้ามาตรา 7 และร้านค้า LPG แล้วให้ผู้บริโภคสามารถซื้อ LPG ได้ในราคาเดิม 18.13 บาทต่อกิโลกรัม หลังการปรับขึ้นราคา LPG ในวันที่ 1 กันยายน 2556 นี้ พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์รวมถึงร้านค้าจำหน่ายด้วย

           ด้าน นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ระบุว่า ยังคงมีประชาชนและร้านค้าที่ยังไม่เข้าใจระบบการใช้สิทธิ์อีก 50% ขณะที่ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 15 วันที่ต้องเร่งดำเนินการ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีร้านค้า LPG ทยอยมาลงทะเบียนใกล้ครบ 38,000 รายแล้ว และในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 นี้ จะได้ข้อสรุปขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด  และเริ่มซักซ้อมการเริ่มใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซฯ ราคาเดิม ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2556





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
   


















เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปตท. เตรียมนำเข้า LPG 4 หมื่นตันต่อเดือน รับมือ LPG ขาด โพสต์เมื่อ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 14:21:06 10,292 อ่าน
TOP
x close