เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ตำรวจทลายแหล่งชำแหละสุนัขเคลื่อนที่ จ.สกลนคร พบสุนัขทั้งมีชีวิต และถูกชำแหละแล้วอื้อกว่าหลายร้อยตัว
วันนี้ (20 สิงหาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจับกุมการลักลอบเปิดโรงชำแหละเนื้อสุนัขส่งออก ในพื้น ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่เครือข่ายประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติ (Watchdog Thailand) เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามการค้าสุนัขข้ามชาติว่า ยังมีการลักลอบชำแหละสุนัขส่งออก ด้วยการใช้วิธีเปิดแหล่งชำแหละเคลื่อนที่เลี่ยงการจับกุม ในป่าเขตพื้น ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร จนกระทั่งมีการสืบสวนติดตามพบว่า มีการเปิดโรงชำแหละสุนัขชั่วคราวขึ้นในพื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านพะโค ต.ท่าแร่ กับบ้านโคกสวาง ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร จนสามารถตรวจยึดสุนัขที่ทำการชำแหละแล้วประมาณ 50 ตัว โดยแยกกระดูก เนื้อ หนัง ออกจากกันรอการส่งออกขายสู่ตลาดในพื้นที่รายย่อยและส่งออกขายไปต่างจังหวัด โดยสุนัขที่ถูกเชือดด้วยมีดบริเวณลำคอ รอการชำแหละอีกจำนวน 34 ตัว พร้อมยึดสุนัขของกลางที่รอดชีวิต 230 ตัว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ 4118 สกลนคร ภายในกระบะดัดแปลงติดตั้งกรงเหล็กเพื่อขังสุนัขที่ได้มาจากการตระเวนแลกซื้อ ส่วนแก๊งค้าสุนัขได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าหลังเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจสอบจับกุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดทั้งหมดเป็นของกลาง เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานติดตามเจ้าของมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนสุนัขของกลางที่ได้จากการตรวจยึดจะได้นำส่งไปดูแลเลี้ยงดูที่ด่านกักกันสัตว์นครพนมต่อไป
ทางด้านตัวแทนเจ้าหน้าที่เครือข่ายประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติ (Watchdog Thailand) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ได้มีการตรวจยึดสุนัขเหยื่อแก๊งค้าสุนัขข้ามชาติที่ลักลอบส่งไปตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ ดังนั้น จึงใช้มาตรการเข้าตรวจสอบจับกุมในแหล่งชำแหละ เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้า แก้ปัญหาถาวร เพราะปัจจุบันยังพบว่าในพื้นที่ ต.ท่าแร่ ยังมีการลักลอบชำแหละสุนัขและทำธุรกิจแลกซื้อสุนัขส่งออกขายประเทศเพื่อนบ้านอยู่ จึงต้องเข้าไปตรวจสอบปราบปรามอย่างจริงจัง
ส่วนรูปแบบการค้าจากการตรวจสอบพบว่ามี 2 รูปแบบคือ การส่งออกสุนัขไปขายเวียดนามเป็นตัว โดยซื้อประมาณตัวละ 50-100 บาทตามขนาด ก่อนส่งออกไปขายถึงปลายทางประมาณตัวละ 3,000-4,000 บาท และอีกรูปแบบคือ การรับซื้อมาชำแหละ แยกเนื้อไปทำเนื้อแดดเดียวส่งขายในประเทศ ประมาณกิโลกรัมละ 100-150 บาท หนังนำไปฟอกส่งโรงงานประมาณตัวละ 250-300 บาทตามขนาด รวมสุนัข 1 ตัว มีมูลค่าประมาณ 1,000-1,500 บาท ซึ่งเป็นราคาในประเทศ แต่หากส่งไปขายเวียดนามมีราคาเพิ่มประมาณ 2-3 เท่าตัว
ทั้งนี้ หากมีการปราบปรามจับกุมควบคุมไม่ให้มีโรงชำแหละสุนัข เชื่อว่าจะสามารถตัดวงจรให้ปัญหาการค้าหมดไปแน่นอน เพราะการตรวจยึดปลายทางมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายดูแลของกลางในระยะยาว โดยที่ผ่านมาการปราบปรามยากมาก เพราะผลตอบแทนสูง ทำให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้องด้วยและพบว่ามีผู้ค้าสุนัขบางกลุ่มที่กำลังพยายามจะปรับรูปแบบการค้า ด้วยการหาทางชำแหละแช่แข็งส่งไปขายเวียดนาม ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการเข้มงวดตรวจสอบเพิ่มขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก