x close

ประชุมสภาวุ่น วันแรกมาราธอน 12 ชั่วโมง-เลื่อนถกมาตรา 2 วันนี้




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ประชุมวุ่น สภาป่วน วันแรกประชุมยาวนานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง หลังจากที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ลุกฮือหน้าบัลลังก์ จนประธานฯ สั่งพักการประชุมครั้งที่ 5 และสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 30 นาย มาล้อมบังลังก์ไว้ รีบรวบรัดมาตรา 1 มติเห็นชอบเสียง 330 ต่อ 6 คะแนน
ด้าน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้โหวตมาตราดังกล่าว ชี้ไม่พอใจ เหตุประธานไม่เป็นกลาง ตัดสิทธิ์ฝ่ายตนแต่ให้สิทธิ์ฝ่ายตรงข้าม เลื่อนถกมาตรา 2 วันนี้

          เมื่อเวลา 20.00 น. ของวานนี้ (20 สิงหาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างตำรวจสภาฯ กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ต้องสั่งให้พักการประชุม เป็นเวลา 10 นาที ทำให้การเปิดประชุมอีกครั้งบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด

          โดย ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ โห่ร้องด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่ สมาชิกวุฒิสภา จ.จันทบุรี ได้ลุกขึ้นมาเสนอให้ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ควบคุมการประชุมในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยังต่อว่าว่าประธานรัฐสภาไม่เป็นกลาง เนื่องจาก นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขอใช้สิทธิ์ประท้วง แต่ประธานรัฐสภาไม่ให้ เพราะต้องการให้นายเทพไทอภิปรายเข้าสู่เนื้อหาก่อน และกลับกันเมื่อ นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ขอให้สิทธิ์ประท้วง ทางประธานรัฐสภากลับให้อนุญาต

          ขณะที่ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นการที่ไม่ยอมรับการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ว่า ทางฝ่ายค้านพยายามหยิบยกเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตีรวนอีก โดยไม่ยอมทำการอภิปรายแปรญัตติ ซึ่งตามข้อบังคับ หากผู้ใดไม่แปรญัตติก็จะตกไป ในส่วนของการพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่เสร็จสิ้นก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ต้องเร่งพิจารณางบประมาณปี 57 เพราะมีเวลากำหนดเอาไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายกับประเทศได้

          หลังจากนั้นไม่นาน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงหลังพบว่าได้มีการเล่นการพนันเกิดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องลุกขึ้นประท้วง เนื่องจากมองว่าการประท้วงดังกล่าวของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงการเล่นละคร ซึ่งทำให้นายสมศักดิ์ต้องขอให้ถอนคำพูด แต่ความวุ่นวายยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อนายบุญยอดยังคงใช้สิทธิ์การพาดพิงตอบโต้กันไปมา จนทำให้ประธานรัฐสภาต้องสั่งพรรคการประชุมเป็นครั้งที่ 4 เป็นเวลา 10 นาที

          แต่ถึงกระนั้นความโกลาหลก็ยังไม่หยุด เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกฮือกันเดินไปที่หน้าบัลลังก์ หลังจากที่นายสมศักดิ์พยายามรวบรัดผ่านมาตรา 1 จนทำให้นายสมศักดิ์ต้องสั่งพักการประชุมเป็นรอบที่ 5 แล้ว

          ต่อมา เมื่อเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังจากการเปิดประชุมอีกครั้งหนึ่ง มีนายนิคม ไวยวัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ท่ามกลางตำรวจรัฐสภากว่า 30 นาย ยืนล้มกรอบบัลลังก์ประธานฯ โดยนายนิคมตัดบทให้สมาชิกรัฐสภาลงมติในมาตรา 1 แต่ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงประท้วงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับตะโกนต่อว่า แต่ทางด้านนายนิคมไม่สนใจ และสั่งให้สมาชิกรัฐสภาลงมติในทันที โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ กมธ. ในมาตรา 1 ด้วยคะแนนเสียง 330 ต่อ 6 คะแนน ไม่ลงคะแนน 9 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง โดยที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้โหวตมาตราดังกล่าว

          จากนั้น นายนิคม ได้สั่งให้เลขาสภาฯ เดินหน้าต่อในมาตรา 2 แต่นายเทพไทระบุว่า ตนยังไม่อภิปรายในมาตรา 1 และนายนิคมก็ไม่เหมาะสมที่จะทำหน้าที่ ส่วนสภาพการประชุมในตอนนี้ก็ไม่เหมาะที่จะประชุมต่อไป ขอให้ปิดการประชุม โดยมี ส.ส. ประชาธิปัตย์ ท่านอื่น ๆ ที่ประท้วงอยู่หน้าบัลลังก์ก็พากันตะโกนให้ปิดประชุม ทำให้นายนิคมต้องขอความเห็นว่าจะปิดประชุมหรือไม่ แต่ ทางด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เสนอให้เดินหน้าประชุมต่อไป และหากใครเห็นว่าไม่ควรมีการประชุมต่อก็ให้ใช้มติ

          ต่อมา นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติให้เปิดประชุมต่อ โดยมีผู้รับรองครบตามข้อบังคับ ซึ่งเป็น ส.ส. เพื่อไทย และ ส.ว. เลือกตั้ง ยกมือสนับสนุน ทำให้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. สรรหา ลุกขึ้นต่อว่าพร้อมชี้หน้าไปยังนายนิคม ด้วยเสียงเกรี้ยวกราดว่า ประธานฯ เรียกแต่ ส.ว. เลือกตั้ง ไม่สนใจ ส.ว. สรรหา ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง และขอให้ลงจากบัลลังก์ในทันที

          ส่วนทางด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ก็เสนอให้ประธานฯ เลื่อนการประชุมออกไปก่อนเช่นกัน เพราะบรรยากาศการประชุมไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่นายนิคมตัดบทว่ามีผู้เสนอญัตติไว้แล้ว ทำให้ นายสมชาย ส.ว. สรรหา ลุกขึ้นมาโวยอีกครั้งว่า จะใช้เสียงข้างมากในสภาก็ได้ แต่ระวังจะแพ้สงคราม ขณะที่ นายกฤช  ส.ว. กำแพงเพชร  ยืนยันว่าไม่สามารถสั่งเลื่อนประชุมได้ จนกว่าจะมีการโหวตให้ประชุมต่อหรือไม่ เพราะได้เสนอญัตติไว้แล้ว

          ด้าน นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอปรึกษากับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมหารือกับนายสมศักดิ์ประธานรัฐสภา ซึ่งทุกฝ่ายไม่ขัดข้องที่จะเลื่อนประชุมไปก่อน

          แต่ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่ให้วิป 3 ฝ่ายคุยกันนั้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เพราะปัญหาอยู่ที่ประธานในที่ประชุมมากกว่า ซึ่งตัดสิทธิ์สมาชิกเสียงข้างน้อยตลอด ทำให้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับไม่ได้

          อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโต้เถียงยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องอีก 1 ชั่วโมง จนท้ายที่สุด นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เสนอให้เลื่อนประชุมออกไปก่อน และให้วิป 3 ฝ่ายไปหารือกันในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ซึ่งทำให้นายนิคมสั่งเลื่อนประชุมออกไปเป็นวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 09.30 น. และยุติการประชุมวันแรกในเวลา 21.40 น. รวมเวลาการอภิปรายมาตรา 1 ทั้งสิ้น 12 ชั่วโมง






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประชุมสภาวุ่น วันแรกมาราธอน 12 ชั่วโมง-เลื่อนถกมาตรา 2 วันนี้ อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2556 เวลา 13:55:00 31,730 อ่าน
TOP