เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงการต่างประเทศ แฉ ลูกจ้างชาวมาเลเซียขโมยดวงตราวีซ่าสถานทูตไทยในมาเลเซียไปขายต่อ 300 แผ่น เชื่อทำกันเป็นขบวนการ เร่งตั้งคณะกรรมการสอบหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ หวั่นบุคคลต้องห้ามจะนำมาใช้เข้าไทยอีก หลังตรวจพบแล้ว 70 กว่าราย
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่ดวงตราวีซ่า ที่ใช้ในการเดินทางของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้เกิดการสูญหายไป จำนวน 300 แผ่น จากจำนวนที่มีทั้งหมด 3,000 แผ่น และพบว่ามีชาวต่างชาตินำไปใช้ในการเข้าออกประเทศไทยแล้วจำนวน 259 แผ่น ซึ่งในจำนวนนี้มีบุคคลต้องห้ามชาวอิหร่านใช้ไป 35 แผ่น ชาวแคเมอรูน 1 แผ่น ชาวไนจีเรีย 20 แผ่น ชาวปากีสถาน 4 แผ่น และชาวอินเดีย 4 แผ่น
ล่าสุด ทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จึงได้ทำการตรวจสอบในกรณีที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งพบว่าเกิดการทุจริตจากลูกจ้างท้องถิ่นชาวมาเลเซีย และคาดว่าน่าจะมีการทำกันเป็นกระบวนการ โดยเชื่อว่าน่าจะมีคนในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบให้ได้โดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (21 สิงหาคม 2556) เวลาประมาณ 09.30 น. ที่ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายแนเมก้า ซันเดย์ เอ็ดวิน อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศไนจีเรีย ที่ได้รับการตรวจลงตราในทางมิชอบ ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่ ตม. จึงทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลต้องเฝ้าระวังพบว่า นายแนเมก้าเป็นบุคคลเฝ้าดูของ ตม.
หลังจากที่สามารถจับกุมตัวนายแนเมก้าได้แล้ว ก็ได้รับแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่านายแนเมก้าเป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายที่อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากได้รับการตรวจลงตรามาในทางที่มิชอบ ตามหนังสือเดินทางของ กต. เรื่องการตรวจพบความผิดปกติในการตรวจลงตราที่อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง แล้วก็มีการปลอมแปลงแผ่นปะตรวจลงตรา และก่อนหน้านี้ ตม. ยังสามารถจับกุมตัวชายชาวแคเมอรูนที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว 1 ราย ซึ่งชายชาวแคเมอรูนคนนี้ก็ได้ให้การรับสารภาพว่า ซื้อดวงตราใบนี้มาในราคาเงินไทยใบละ 30,000 บาท
ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความวิตกกังวลว่าจะมีการนำเอาบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ และบุคคลที่มีผลต่อความมั่นคง เข้ามาในประเทศไทยอีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีบุคคลต้องห้ามใช้ดวงตราวีซ่าที่หายไปเข้ามาในประเทศไทยแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
