เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติ เล็งนำยางพารามาผสมฉาบถนน หวังกระตุ้นยอดการใช้ จากปีละ 1,200 ตันยาง เป็น 10,000 ตันยาง
เมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม 2556) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจบริเวณจุดฉาบผิวถนนบนโทลเวย์ ขาออก บริเวณเขตดอนเมือง 6 กม. (ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้ตั้งกรวยยางตั้งแต่ทางลง พร้อมกับปิดช่องทางจราจรชั่วคราวช่องทางซ้ายและกลางเอาไว้สำหรับการปรับปรุงผิว
สำหรับการปรับปรุงผิวจราจรครั้งนี้ เป็นการใช้ยางมะตอยผสมกับเนื้อยางพารา 5% และนำไปผสมกับซีเมนต์ หิน น้ำ สารผสมเพิ่มน้ำยาหน่วง เพื่อไม่ให้เกิดปฏิกิริยาเร็วเกินไป มีความทนทานและปลอดภัยมากกว่าด้วย ซึ่งการใช้สูตรผสมกับยางพารา จะช่วยให้มีความฝืดหรือต้านทานการลื่นไถลมากขึ้น ต่างจากยางมะตอยธรรมดาเมื่อใช้ไป 2-3 ปี ผิวทางก็จะลื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้การฉาบผิวยางมะตอยล้วน ๆ ยังใช้เวลานานกว่ายางมะตอยผสมยางพาราคือ 6 ชั่วโมงกับ 2 ชั่วโมง
สำหรับเส้นทางที่ใช้ยางมะตอยผสมกับยางพารา มีในประเทศไทยแล้วบางเส้นทางคือ ถนนในจังหวัดนครนายก ระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งจากการทดสอบทำถนนแบบนี้ระยะเวลา 6 เดือน ถือว่าน่าพอใจ และถ้าหากนำยางพารามาใช้ทำผิวถนน ก็จะสามารถเพิ่มยอดการใช้ยางพาราในประเทศได้ จากเดิมใช้ปีละ 1,200 ตันยาง เป็น 10,000 ตันยาง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนของถนนผสมยางพารามีราคาสูงกว่าถนนยางมะตอยธรรมดาร้อยละ 18 แต่พบว่ามีความคงทนและคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
