(แฟ้มภาพ)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดงเลื่อนนัด อ้างป่วย อยู่ที่สิงคโปร์ ด้านอัยการเผย เลื่อนนัดจนทำให้คดีขับรถเร็วเกินกำหนดหมดอายุ ลั่นออกหมายจับพรุ่งนี้ ใครพบเห็นนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ได้เลย
วันนี้ (2 กันยายน 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้นัดหมายให้ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อายุ 28 ปี ทายาทกระทิงแดง เข้าพบพนักงานอัยการเพื่อฟังคำสั่งคดีขับรถหรูชน ดต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจนครบาลทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555
โดยอัยการได้นัดหมายในเวลา 10.00 น. เพื่อแจ้ง 3 ข้อหาแก่ นายวรยุทธ คือ ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควร และทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย แต่ทั้งนี้เมื่อถึงเวลานัด นายวรยุทธก็ยังไม่เดินทางมา จนทางอัยการระบุว่า หากเกินเวลา 16.00 น. นายวรยุทธยังไม่ตามนัดจะทำการออกหมายจับในทันที เนื่องจากนายวรยุทธเลื่อนนัดศาลถึง 5 ครั้ง รวมระยะเวลาทั้งหมด 1 ปี
แต่แล้วเมื่อเวลา 15.00 น. มีรายงานว่า นายวรยุทธได้มอบหมายให้ นายธนิต บัวเขียว ทนายความส่วนตัว นำใบรับรองแพทย์จาก M.B.B.S. (Singapore) ประเทศสิงคโปร์ ลงวันที่ 1 กันยายน 2556 มายื่นให้อัยการ โดยระบุว่าไม่สามารถเดินทางมาฟังข้อหาได้ เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้นายธนิตเคยนำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลย่านปทุมธานีมามอบให้ในวันที่ 26 สิงหาคม แล้วเช่นกัน ส่วนในครั้งนี้ นายธนิตได้เดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยคิดว่าจะสามารถเดินทางกลับมาพบอัยการได้ทันภายในวันที่ 2 กันยายนนี้ แต่ทางแพทย์ระบุว่าให้พักผ่อนต่ออีก 2-3 วัน แล้วจึงจะเดินทางกลับประเทศไทยได้
นอกจากนี้ นายธนิต ยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่ตนเดินทางมาศาลล่าช้า เพราะต้องใช้เวลาประสานเพื่อนำเอกสารจากประเทศสิงคโปร์มายืนยัน ซึ่งการยื่นใบรับรองแพทย์ในครั้งนี้ทางนายวรยุทธมีความหนักใจเช่นกัน แต่เพราะมีความจำเป็นจริง ๆ และไม่ได้รมีเจตนาหลีกเลี่ยงแต่อย่างใด
ขณะที่ นายฤชา อัยการ กล่าวว่า ตลอดทั้งวันตนได้โทรศัพท์ติดต่อนายวรยุทธและทนายความแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อนายวรยุทธไม่มาศาล ทำให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนดซึ่งเป็นข้อหาลหุโทษที่มีอายุความ 1 ปี จะหมดอายุภายในวันที่ 3 กันยายนนี้ เนื่องจากไม่สามารถนำตัวไปฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ทัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีผลต่อสำนวน เพราะคดียังมีอีก 2 ข้อหาใหญ่ คือ ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน
พร้อมกันนี้ นายฤชา ยังกล่าวย้ำอีกว่า ทางอัยการได้ร่างคำฟ้องไว้พร้อมแล้วทุกข้อหา แต่เมื่อหมดอายุความก็จะแก้คำฟ้องคงเหลืออีก 2 ข้อหาหลัก และในวันพรุ่งนี้ 3 กันยายน ทางอัยการจะแจ้งพนักงานสอบสวนให้ขออนุมัติออกหมายจับนายวรยุทธโดยระบุท้ายคำฟ้องด้วยว่าขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหารมีพฤติการณ์หลบหนีเลื่อนนัดอัยการหลายครั้ง ทั้งนี้หากพบเห็นผู้ต้องหาที่ใดก็สามารถจับกุมตัวได้ทันที อย่างไรก็ตาม ใบรับรองแพทย์ที่นำมายื่นในวันนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบและยังไม่ได้ตรวจสอบว่านายวรยุทธเดินทางออกนอกประเทศจริงหรือไม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
